ระหว่างการเยือนสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างลงลึกกับนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในประเด็นต่างๆ ทั้งกิจการเอเชีย-แปซิฟิก ปัญหาระหว่างประเทศและภูมิภาค ตลอดจนการท้าทายระดับโลก โดยได้บรรลุฉันทามติอย่างกว้างขวาง ความร่วมมือจีน-สหรัฐฯ ในปัญหาระหว่างประเทศเปล่งประกายฉายวาวใหม่ๆ หลายประการ ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้สองประเทศได้รับประโยชน์เท่านั้น หากยังทำให้ทั่วโลกได้รับประโยชน์อีกด้วย

ประการแรกคือ จีน-สหรัฐฯ จับมือสนับสนุนอัฟกานิสถานสร้างชาติใหม่ด้วยสันติวิธี โดยประธานาธิบดีจีนกับสหรัฐฯ มีมติว่า จะรักษาการติดต่อและความร่วมมือต่อปัญหาอัฟกานิสถาน สนับสนุนอัฟกานิสถานสร้างชาติและส่งเสริมเศรษฐกิจใหม่ด้วยสันติวิธี สนับสนุนกระบวนการสร้างความปรองดองตามหลักที่ว่า "ชาวอัฟกานิสถานเป็นแกนนำและเป็นผู้ถือครอง" ตลอดจนจะส่งเสริมการเจรจาไตรภาคีจีน-สหรัฐฯ-อัฟกานิสถาน

ประการที่สอง ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงความเคารพต่อรัฐบาลจีนที่พยายามมีส่วนร่วมในการรักษาสันติภาพของโลก โดยสหรัฐฯ กล่าวชื่นชมความร่วมมือจีน-สหรัฐฯ ในโครงการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติและของภูมิภาค ยินดีให้จีนสร้างคุณูปการใหม่ต่อโครงการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ และเห็นชอบให้รักษาการพบปะหารือเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการสร้างศักยภาพของประเทศผู้ส่งกองกำลังทหารและประเทศผู้ส่งกองกำลังตำรวจให้เข้มแข็งขึ้น

และประการที่สาม คำมั่นสัญญาของจีนที่ว่า "รับผิดชอบมากขึ้นแต่ไม่ครองความเป็นเจ้า" ได้รับการชื่นชมอย่างกว้างขวาง พร้อมๆ กับการพัฒนาอย่างรวดเร็วของจีน สหรัฐฯ เคยกล่าวถึง "การมีความรับผิดชอบของจีน" "การที่จีนเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในผลประโยชน์และมีความรับผิดชอบ" และ "จีน-สหรัฐฯ ร่วมบริหาร" ตามลำดับ ส่วนนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีเองเคยให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว นิวยอร์ก ไทมส์ เมื่อ 1 ปีก่อนว่า จีนเป็น "ฟรีไรเดอร์ (free rider)" มาเป็นเวลา 30 ปีแล้ว ซึ่งความหมายแฝงที่อยู่เบื้องหลังถ้อยคำดังกล่าวก็คือ การที่จีนมีความเข้มแข็งเกรียงไกรยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ก็เพราะได้รับประโยชน์จากระบบสากลที่มีอยู่ในปัจจุบัน จีนจึงสมควรที่จะตอบแทนบ้าง

(TOON/LING)