หลายวันก่อวันตรุษจีน จะมีการเตรียมงานกันอย่างวุ่นวาย การเลือกหาเสื้อผ้าชุดใหม่เป็นเรื่องใหญ่ และสำคัญมากเรื่องหนึ่ง หนี้สินต่างๆ ต้องชำระให้เสร็จสิ้นก่อนวันตรุษจีน ต้องมีการทำความสะอาดบ้านเรือนให้หมดจดตลอดทั้งหลัง เพราะในช่วงของวันตรุษจีนจะห้ามกวาดบ้าน เพราะถือว่าเป็นการกวาดเอาโชคลาภทิ้งไป ชาวบ้านในบางพื้นที่จะซื้อต้นท้อ เพราะถือว่าเป็นสิ่งนำโชค นอกจากนี้ ยังมีต้นส้มชนิดหนึ่งที่มีลูกขนาดเล็ก ผิวเป็นสีทองแต่ผลเปรี้ยวมาก วางไว้ที่มุมใดมุมหนึ่งของบ้านด้วย ชื่อส้มชนิดนี้ในภาษากวางตุ้งเมื่อเล่นคำพ้องเสียงแล้วจะมีความหมายว่า ทอง ดังนั้น จึงใช้เป็นสัญลักษณ์ว่า จะนำเงินทองเข้าบ้าน
อาหารที่เตรียมไว้สำหรับวันตรุษจีนก็จะมีลักษณะซึ่งแสดงเอกลักษณ์ของวันปี ใหม่จีนโดยเฉพาะ ของหวานส่วนใหญ่ทำจากข้าวเหนียวและงา ผลไม้แห้ง เม็ดแตงโม ชนิดของอาหารมักมีความหมายไปในทำนองโชคลาภ ความสมบูรณ์พูนสุข
สำหรับพวกคนงานจะได้รับเงินพิเศษประจำปี เงินเพิเศษนี้จะได้รับเท่ากับค่าจ้างเดือนหนึ่งหรือมากกว่านั้น จนถึงทุกวันนี้ การจ่ายเงินพิเศษยังคงเป็นประเพณีที่ทำกันตลอดมา
ในพื้นที่ภาคใต้ของจีน ยังมีประเพณีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลตรุษจีน เช่น คืนก่อนวันตรุษจีน ที่เขตบริหารพิเศษฮ่องกง และเมืองกว่างโจว จะมีตลาดนัดดอกไม้อันสวยงามมาก เปิดให้ประชาชนเลือกซื้อหาต้นส้ม ต้นท้อ ดอกไม้ต่างๆ ตลอดทั้งคืน
คืนก่อนวันปีใหม่เรียกว่า "ฉูซี " ในคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นี้ สมาชิกครอบครัวจะอยู่พร้อมหน้ากัน และร่วมรับประทานอาหารกัน อาหารมื้อนี้อาจพูดได้ว่า เป็นอาหารมื้อโอชาและหลายหลากที่สุดในรอบหนึ่งปี
เช้าวันปีใหม่ ทุกคนจะพากันไปกล่าวสวัสดีปีใหม่ และขอพรจากผู้ใหญ่ ไปเยี่ยมญาติสนิทมิตรสหาย การกล่าวสวัสดีปีใหม่เป็นประเพณีนิยมที่สำคัญของเทศกาลตรุษจีน เพราะถือว่าจะเป็นการให้เกิดโชคลาภ สุขภาพแข็งแรง และมีความสุข
นอกจากนี้ ยังจะมีการคารวะผู้หลักผู้ใหญ่กัน มีการเปลี่ยนแผ่นกระดาษสีแดงที่เขียนสัญลักษณ์ของความเจริญรุ่งเรืองเสียใหม่ ในบางพื้นที่ชนบท ยังมีการติดรูปเทพเจ้าไว้ที่ประตูหน้าบ้าน เพื่อป้องกันโชคร้ายใดๆ ไม่ให้เกิดขึ้นตลอดทั้งปีด้วย มีการเก็บกรรไกร มีด หรือของมีคมต่างๆ เอาไว้ ให้พ้นหูพ้นตา เพื่อไม่ให้โชคดีที่จะเกิดขึ้นถูกทำลายลงด้วยของมีคมเหล่านั้น
สำหรับวันที่สองของปีใหม่ ถือเป็นวันของครอบครัว และปกติก็จะมีการเลี้ยงอาหารกันอย่างเป็นพิธีรีตอน ส่วนวันที่ 3 นั้นเป็นวันที่ทุกคนออกไปข้างนอก หรือที่เรียกว่า วันเที่ยว วันนั้น ถนนหนทางจะเต็มไปด้วยรถรา เพราะเพื่อนฝูงจะแวะเวียนไปมาหาสู่กัน ประโยคที่เขาจะใช้ทักทายกันในวันนั้นคือ ซินนี้ฮวดไช้ ซึ่งมีความหมายว่า ขอให้ร่ำรวย อุดมสมบูรณ์ตลอดปีใหม่
ปัจจุบัน ไม่เฉพาะจีนที่มีการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองวันตรุษจีนเท่านั้น ชาวเชื้อสายจีนที่อยู่ในต่างประเทศก็มีการจัดกิจกรรมฉลองเทศกาลตรุษจีน เช่นกัน เช่น ที่ประเทศไทย ก็มีการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองกันแถวเยาวราชเป็นประจำทุกปี
เทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมา ชาวไทยเชื้อสายจีนสุดปลื้มปีติที่ได้เฝ้ารับเสด็จ สมเด็จพระเทพฯ ที่เสด็จฯเป็นองค์ประธานเปิดงานเทศกาลตรุษจีนไชน่าทาวน์เยาวราช
ไฮไลต์ของงานเป็นแพะหยกขาว 3 ตัวแกะสลักบนหินหยกก้อนเดียวกัน สูง 1.6 เมตร หนัก 3 ตัน ที่กระทรวงวัฒนธรรมจีนทูลเกล้าฯ ถวาย ตั้งไว้ที่ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ ตามความเชื่อของจีน แพะหยกขาว 3 ตัวแกะสลักเรียกว่า "ซ่าน หยาง ไคไท่" "ซาน" หมายถึง 3 "หยาง" หมายถึงแพะ "ไคไท่" หมายถึงสิริมงคล ร่มเย็น
วันเดียวกันนี้ กระทรวงวัฒนธรรม สาธารณรัฐประชาชนจีน ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย สภาส่งเสริมวัฒนธรรม และความสัมพันธ์ไทย-จีน เทศบาลประชาชนเขตตงเฉิง กรุงปักกิ่ง และสถานีโทรทัศน์ไทยจีน ร่วมกันจัดงานมหกรรมเผยแพร่วัฒนธรรม วัดหอบูชาดิน "ตี้ถาน" เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตจีน-ไทย และเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน ที่บริเวณลานอเนกประสงค์ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ด้วยการจำลองบรรยากาศงานวัด "ตี้ถาน" ในเทศกาลตรุษจีน ซึ่งเป็นงานวัดเก่าแก่และได้รับความนิยมจากประชาชนมากที่สุดในปักกิ่ง
ผู้จัดงานครั้งนี้แสดงความคิดเห็นว่า งานวัฒนธรรมวัดตี้ถาน ถือเป็นงานที่คนไทยและชาวจีนให้ความสำคัญมาก เพราะนอกจากเป็นการฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่าง 2 ประเทศแล้ว ยังจัดเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ ในวโรกาสทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา ที่ทรงเป็นที่รักของคนทั้งสองประเทศ ความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมของไทย-จีน มีความผูกพันใกล้ชิดมายาวนานนับร้อยปี การที่จีนจำลองงานวัฒนธรรมวัด "ตี้ถาน" ที่มีอายุนับร้อยปี มาแสดงที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรกของโลกนั้นทำให้คนไทยและจีนรักกันเหมือนพี่น้องมากขึ้น
สำหรับบรรยากาศในงานวัฒนธรรมวัดตี้ถาน เป็นไปอย่างคึกคัก มีคนไทย นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย ชาวตะวันตกและชาวจีนมาเที่ยวชมและร่วมสนุกในงานเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงค่ำมีการแสดงงิ้วปักกิ่ง "รำเทพไฉเสิน" และ "ความฝันจีน" นอกจากนี้ ยังแสดงงิ้ว "เปลี่ยนหน้า" ของมณฑลเสฉวน การแสดงกายกรรมจีน การแสดงเต้นรำต้นไม้นำโชค ฯลฯ สร้างความประทับใจในความสวยงามเป็นอย่างมาก นอกเหนือจากการแสดงศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านที่มีชื่อจากมณฑลชิงไห่ ยูนนาน ซูโจว และทิเบต รวมทั้งอาหารจานเด็ดชนิดต่างๆ รวมทั้งได้สัมผัสกับสินค้า 4 ยี่ห้อดังอายุนับร้อยปี อาทิ ตำรับยาถงเหรินถัง หมวดเซิ่งซีฟู ชาอู๋ยู่ว์ไท่ย์ และเป็ดเปี้ยนอี้ฝั่ง ฯลฯ
ปีนี้ ยังจะมีการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนแถวเยาวราชเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา คาดว่า พี่น้องชาวไทยจำนวนมากจะไปเที่ยวชมกันและมีบรรยากาศคึกคักไม่แพ้ปีที่ ผ่านมา