สำนักข่าวซินหวารายงานว่า บ่ายวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา การประชุมฟอรั่มเอเชียโป๋อ๋าวปี 2016 เสร็จสิ้นลงที่มณฑลไหหลำทางภาคใต้ของจีน นักการเมือง นักธุรกิจ และนักวิชาการรวมกว่า 2,100 คนจาก 62 ประเทศทั้งในภูมิภาคเอเชีย ยุโรป และ โอเชียเนียเข้าร่วมประชุม พร้อมเสนอข้อคิดเห็นต่อการพัฒนาของภูมิภาคเอเชียตลอดจนของโลกในอนาคต
นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนร่วมพิธีเปิดประชุม พร้อมกล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อ " ร่วมสร้างอนาคตใหม่แห่งเอเชียที่เปี่ยมด้วยพลังชีวิต"
การประชุมฟอรั่มเอเชียโป๋อ๋าวปี 2016 มีหัวข้อหลักคือ " อนาคตใหม่แห่งเอเชีย : พลังใหม่ และความปรารถนาใหม่ " ระหว่างประชุม มีการจัดสัมมนา 88 ครั้ง ผู้รับผิดชอบองค์การระหว่างประเทศ และเจ้าหน้าที่ระดับรัฐมนตรี 94คน ผู้แทนจากวิสาหกิจทั้งจีนและต่างประเทศ 1,122 คน และผู้บริหารระดับสูง กว่า 200 คนจากบริษัท 500 อันดับแรกของโลกร่วมงานสัมมนาเหล่านี้
นายโจว เหวินจ้ง เลขาธิการฟอรั่มเอเชียโป๋อ๋าวกล่าวว่า ผู้ร่วมประชุมปีนี้เน้นอภิปรายใน 5 ประเด็นสำคัญคือ การเงินทางอินเตอร์เน็ต เศรษฐกิจแบบแบ่งปัน การปฏิรูปโครงสร้างภาคอุปทาน ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence ) และการระดมทุนจากมวลชน รวมทั้งร่วมหาทางแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจที่กำลังเผชิญอยู่ เพื่อให้เศรษฐกิจเอเชียมีความคึกคักมากยิ่งขึ้น
นายโจว เหวินจ้ง นักเศรษฐศาสตร์ และนักธุรกิจที่ร่วมประชุมมีความเห็นตรงกันว่า พลังใหม่ของเศรษฐกิจเอเชียเกิดจากการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ ผู้ร่วมประชุมส่วนใหญ่สนใจการปฏิรูปภาคอุปทานของจีน ดังนั้น ผู้จัดประชุมจึงได้จัดการสัมมนาเกี่ยวกับแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจีนระยะ 5 ปี ฉบับ 13 ขึ้น ผู้ร่วมประชุมจำนวนมากเห็นว่า ช่วง 5 ปีข้างหน้า จีนจะเร่งยกระดับอุตสาหกรรมการผลิต เร่งระบายสินค้าในคลัง ลดศักยภาพการผลิตที่ล้นตลาด และกระบวนการลดหนี้ (Deleverage) ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องทำพร้อมกัน และต้องให้ภาคอุปทานสอดรับกับภาคอุปสงค์
ผู้ร่วมประชุมจำนวนมากแสดงความเห็นว่า หลังการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้ร่วมประชุมคนอื่นๆ ทำให้เข้าใจสถานการณ์เศรษฐกิจเอเชียมากขึ้น และมีความเห็นตรงกันในแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจเอเชียในอนาคต
นายโจว เหวินจ้ง ยังเผยว่า ฟอรั่มเอเชียโป๋อ๋าวจะร่วมกับฟอรั่มเศรษฐกิจอัคโมลาของประเทศคาซัคสถานจัดงานสัมมนาเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างประเทศตามเส้นทางสายไหม และงานสัมมนาเกี่ยวกับพลังงานและทรัพยากรกับการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ประเทศคาซัคสถานระหว่างวันที่ 24-26 พฤษภาคมนี้ ผู้ร่วมสัมมนาจะเน้นอภิปรายในประเด็นการนำยุทธศาสตร์"หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง"ประสานกับแผนการร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างเอเชีย-ยุโรป เจ้าหน้าที่รัฐบาล นักธุรกิจ และนักวิชาการจากประเทศตามเส้นทางสายไหม และสมาชิกสหพันธ์เศรษฐกิจเอเชีย-ยุโรปจะร่วมงานสัมมนาดังกล่าว (TOON/cai)
