วันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา นายบุนยัง วอละจิต เลขาธิการพรรคประชาชนปฏิวัติลาว ประธานประเทศ และนายทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรีของประเทศลาวพบปะกับนายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนที่กรุงเวียงจันทน์ ประเทศลาว
วันเดียวกัน นายหวัง อี้ พบเจรจากับนายสะเหลิมไช กมมะสิด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศลาว โดยนายหวัง อี้ กล่าวว่า ช่วง 55 ปีนับจากจีน-ลาวสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเป็นต้นมา สองประเทศให้การสนับสนุนซึ่งกันและกันทางการเมือง ดำเนินความร่วมมือทางเศรษฐกิจรอบด้าน ขับเคลื่อนการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างกันในทุกทิศทาง ไม่ว่าสถานการณ์ระหว่างประเทศจะมีความสลับซับซ้อนและผันแปรอย่างไร จีนจะยึดมั่นในนโยบายเป็นมิตรกับประเทศลาวต่อไป ผลักดันยุทธศาสตร์ความสัมพันธ์หุ้นส่วนเพื่อความร่วมมือรอบด้านระหว่างสองประเทศให้ประสบความสำเร็จมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง สองประเทศจะต้องรักษาการไปมาหาสู่กันระหว่างผู้นำระดับสูง มีการประสานกันในยุทธศาสตร์ "1 แถบ 1 เส้นทาง " (one belt,one road ) และยุทธศาสตร์พัฒนาการคมนาคมทางบกของประเทศลาวให้เปลี่ยนจากสภาพเดิมที่ด้อยพัฒนาเป็นการคมนาคมทางบกที่มีความทันสมัย อีกทั้งยังจะมีการเชื่อมโยงแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระยะ 5 ปี ฉบับที่ 13 ของจีนกับแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระยะ 5 ปี ฉบับที่ 8 ของประเทศลาว สนับสนุนความร่วมมือด้านศักยภาพการผลิตภาคอุตสาหกรรม ประกันให้โครงการรถไฟจีน-ลาวดำเนินการและสร้างแล้วเสร็จตามเวลากำหนด กระชับการแลกเปลี่ยนบุคลากร และวัฒนธรรม ส่งเสริมความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมายและความมั่นคง
นายหวัง อี้ ยังกล่าวอีกว่า จีนจะให้การร่วมมือกับลาวอย่างเต็มที่ในช่วงที่ลาวเป็นประเทศประธานหมุนเวียนของอาเซียนในปีนี้ เพื่อร่วมมือกับกลุ่มประเทศอาเซียนมากขึ้น ขับเคลื่อนความร่วมมือจีน-อาเซียนให้ขึ้นสู่ระดับที่สูงยิ่งขึ้น
ด้านนายสะเหลิมไช กมมะสิดกล่าวว่า ลาว-จีนเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดมาก ลาวขอบคุณจีนที่ให้การสนับสนุนและความช่วยเหลือแก่การพัฒนาประเทศของลาว ปีนี้เป็นปีครบรอบ 55 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างลาว-จีน รัฐบาลชุดใหม่ของลาวยินดีลงลึกยุทธศาสตร์พัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนรอบด้านระหว่างสองประเทศอย่างต่อเนื่อง ในช่วงที่ลาวทำหน้าที่เป็นประเทศประธานหมุนเวียนของอาเซียน ลาวจะเร่งขับเคลื่อนการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียน-จีน เพื่อให้ความสามัคคีและความร่วมมือระหว่างอาเซียน-จีนมีความโดดเด่นยิ่งขึ้น ลาวยังจะเข้าร่วมกรอบความร่วมมือแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขงอย่างแข็งขัน เพื่อสร้างประโยชน์แก่ประชาชนในลุ่มน้ำดังกล่าว
ทั้งสองฝ่ายยังมีความเห็นพ้องกันในปัญหาทะเลจีนใต้ โดยเห็นว่าการมีความขัดแย้งในเกาะหรือหินโสโครกบางส่วนในทะเลจีนใต้นั้นไม่เป็นปัญหาระหว่างจีนกับอาเซียน จึงไม่ควรกระทบถึงการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีน-อาเซียน สิทธิของประเทศอธิปไตยในการเลือกรูปแบบการแก้ไขข้อขัดแย้งตามที่ระบุไว้ในกฎหมายระหว่างประเทศนั้นต้องได้รับการเคารพ ประเทศลาวเข้าใจและเห็นด้วยกับแถลงการณ์ของจีนที่ระบุว่า จากมาตรา 298 ของอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฏหมายทะเล (UNCLOS) จีนจะไม่ยอมรับการตัดสินในข้อขัดแย้งทางทะเลของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ทุกฝ่ายควรสนับสนุนให้ประเทศคู่กรณีแก้ไขข้อพิพาททางดินแดนและทางทะเลด้วยสันติวิธีและการเจรจาโดยตรง ตามข้อที่ 4 ของปฏิญญาว่าด้วยแนวปฏิบัติของภาคีทะเลจีนใต้ (DOC) เพื่อพิทักษ์สันติภาพและเสถียรภาพในทะเลจีนใต้
(YIM/cai)