บรรยากาศสงบเงียบในหอสมุด มหาวิทยาลัยซัวเถา

เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา คณะ "สื่อกระแสหลักประเทศตามเส้นทางสายไหมทางทะเลเจาะข่าวกว่างตง 2016" ได้เดินทางไปเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยซัวเถา (汕头大学, Shantou University) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของมณฑลกว่างตง ทั้งได้เยี่ยมชมสถาบันเทคโนโลยีอิสราเอลกว่างตง (广东以色列理工学院，Guangdong Technion - Israel Institute of Technology, GTIIT) ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง สะท้อนให้เห็นว่า เมืองซัวเถากำลังมุ่งสร้างมหาวิทยาลัยระดับแนวหน้าของเอเชียและโลก

ศ.ดร.หลิน ตันหมิง รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยซัวเถา แนะนำมหาวิทยาลัยซัวเถาและสถาบันเทคโนโลยีอิสราเอลกว่างตง (GTIIT)

ศ.ดร.หลิน ตันหมิง รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยซัวเถา ผู้นำชมเล่าว่า มหาวิทยาลัยซัวเถาก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1981 ประกอบด้วยคณะศิลปศาสตร์เอกภาษาจีน คณะวิทยาศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์พร้อมโรงพยาบาลในสังกัด 5 แห่ง ตลอดจน คณะนิติศาสตร์ คณะบริหารธุรกิจ และคณะสื่อสารมวลชน เป็นต้น รวมถึงมีหอกีฬา สระว่ายน้ำ และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เวลานี้เปิดสอนระดับปริญญาตรี โท และเอก ขณะนี้มีอาจารย์ 1,540 คน และนักศึกษา 10,056 คน

คณะ "สื่อกระแสหลักประเทศตามเส้นทางสายไหมทางทะเลเจาะข่าวกว่างตง 2016"

เยี่ยมชมคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยซัวเถา มณฑลกว่างตง

มหาวิทยาลัยซัวเถาดำเนินบทบาทสำคัญในการสร้างบุคลากรเพื่อการพัฒนาเมืองซัวเถา ซึ่งเป็นเมืองสำคัญตามเส้นทางสายไหมทางทะเล และเป็นศูนย์กลางภาคตะวันออกของมณฑลกว่างตง จนถึงปัจจุบันได้ผลิตบุคลากรคุณภาพสาขาต่างๆ กว่า 90,000 คน

นักศึกษากำลังอ่านหนังสือในหอสมุด มหาวิทยาลัยซัวเถา

หอสมุดมหาวิทยาลัยซัวเถามีพื้นที่ทั้งหมด 21,000 ตารางเมตร ที่นั่งอ่านหนังสือ 1,500 ที่นั่ง และมีห้องสัมมนา 27 ห้อง ผู้สื่อข่าวสังเกตุว่า หอสมุดมีความทันสมัย เงียบสงบ บรรดานักศึกษาต่างตั้งใจเรียน ทำการบ้านบ้าง อ่านหนังสือบ้าง ค้นหาข้อมูลบ้าง ส่วนใหญ่จะใช้คอมพิวเตอร์ หรือ ไอแพด ไอโฟนในการสืบค้นข้อมูล

ความน่าสนใจต่างๆ ภายในพิพิธภัณฑ์ร่างกายมนุษย์ มหาวิทยาลัยซัวเถา

พิพิธภัณฑ์ร่างกายมนุษย์ (人体生命科学馆, Human Life Science Museum) คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยซัวเถา เป็นอีกจุดหนึ่งที่ดึงดูดความสนใจของคณะผู้สื่อข่าว ภายในพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงร่างกายมนุษย์และชิ้นส่วนของมนุษย์ที่ได้รับการบริจาคกว่า 600 ชิ้น อธิบายระบบและอวัยวะต่างๆ ของร่างกายมนุษย์ นอกจากนี้ ยังมีระบบที่ใช้ในการวินิจฉัยโรคและการผ่าตัด ซึ่งสั่งซื้อจากสหรัฐอเมริกา ราคา 120,000 หยวน เพื่อนำไปใช้ในการเรียนการสอน

นายหู ชุนหวา (กลาง) เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนมณฑลกว่างตง นายซิมอน เปเรส (Shimon Peres, ซ้าย) อดีตประธานาธิบดีอิสราเอล

และนายลี คา-ซิง (Li Ka-shing, ขวา) นักธุรกิจที่มีชื่อเสียง ในพิธีวางศิลาฤกษ์สถาบันเทคโนโลยีอิสราเอลกว่างตง  (GTIIT) วันที่ 16 ธันวาคม ปี ค.ศ. 2015

ไซต์ก่อสร้างสถาบันเทคโนโลยีอิสราเอลกว่างตง (GTIIT)

นอกจากนี้ ในวันเดียวกัน คณะผู้สื่อข่าวยังได้เยี่ยมชมสถาบันเทคโนโลยีอิสราเอลกว่างตง (GTIIT) ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และติดกับมหาวิทยาลัยซัวเถา

สถาบันเทคโนโลยีอิสราเอลกว่างตง (GTIIT) เริ่มดำเนินการก่อสร้างเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ปี ค.ศ. 2015 โดยนายหู ชุนหวา  เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนมณฑลกว่างตง นายซิมอน เปเรส (Shimon Peres) อดีตประธานาธิบดีอิสราเอล และนายลี คา-ซิง (Li Ka-shing) นักธุรกิจที่มีชื่อเสียงและผู้ร่วมทุน ได้เข้าร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์ในวันเดียวกัน

GTIIT กำหนดจะเปิดรับนักศึกษาในปี ค.ศ. 2017 มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างบุคลากรทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นสูง วิทยาลัยแห่งนี้เป็นโครงการความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยซัวเถากับสถาบันเทคโนโลยีอิสราเอล (Israel Institute of Technology, หรือ Technion) ซึ่งเป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงระดับโลก ในส่วนของทางการมณฑลกว่างตงกับทางการเมืองซัวเถาจะร่วมจัดสรรงบประมาณ 900 ล้านหยวน และพื้นที่ 330,000 ตารางเมตร ขณะนี้ ได้จัดสรรงบประมาณสำหรับโครงสร้างพื้นฐานไปแล้วกว่า 730 ล้านหยวน

ตามโครงการ GTIIT จะมีอธิการบดีฝ่ายจีนกับอธิการบดีฝ่ายอิสราเอล อาจารย์ผู้สอนจำนวน 1 ใน 3 จะมาจากอิสราเอล และนักศึกษาจำนวน 2 ใน 3 จะมาจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก

ถ่ายภาพหมู่กับอาจารย์ มหาวิทยาลัยซัวเถา

นายจุมพล โพธิสุวรรณ รองบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์บางกอก ทูเดย์ สมาชิกสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีนระบุว่า มหาวิทยาลัยซัวเถา-สถาบันเทคโนโลยีอิสราเอลกว่างตง (GTIIT) เปรียบเสมือน "ม.ปักกิ่ง" - "ม.ชิงหวา" ของเมืองซัวเถา เขากับสื่อมวลชนจากประเทศอื่นๆ ต่างระบุเป็นเสียงเดียวกันว่า ประทับใจและขอชื่นชมต่อเมืองซัวเถาที่มุ่งส่งเสริมการศึกษาและสร้างบุคลากรชั้นสูงมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การนำเข้าทรัพยากรด้านการศึกษาจากประเทศชั้นนำของโลก เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประชาชนและประเทศชาติให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น

(TOON/LING)