อดีตเลขาธิการศูนย์กิจการทางทะเล กระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์ผู้หนึ่งระบุว่า สหรัฐฯ เป็นผู้หนุนหลังให้ฟิลิปปินส์ทวีความตึงเครียดในทะเลจีนใต้ "ฟิลิปปินส์ไม่มีนโยบายการต่างประเทศที่เป็นอิสระ มักจะอยู่ใต้บัญชาการของสหรัฐฯ อยู่เสมอ นายเบนิโญ อาคิโนพูดถึงสิ่งใดก็มักจะพูดว่าสืบเนื่องจากระบบนิติบัญญัติและกรอบกฎหมาย แท้ที่จริงก็คือ กฎหมายตามที่สหรัฐฯ บัญญัติขึ้น"
นักเขียนคอลัมน์หนังสือพิมพ์เดอะสแตนตาร์ด (The Standard) ของฟิลิปปินส์ผู้หนึ่งระบุว่า ในปัญหาทะเลจีนใต้ "ชาวฟิลิปปินส์เป็นผู้เก็บเกาลัดจากกองไฟแทนสหรัฐฯ" สหรัฐฯ มีเจตนาใช้ฟิลิปปินส์ ซึ่งมีข้อพิพาทกับจีนในปัญหาทะเลจีนใต้ เป็นข้ออ้างในการส่งกองกำลังทหารสหรัฐฯ ไปประจำในฟิลิปปินส์และ "ปฏิบัติการลาดตระเวนทางทะเลเป็นประจำ" หากกองกำลังทหารสหรัฐฯ ประจำในฟิลิปปินส์เป็นเวลานาน ฟิลิปปินส์ก็ต้องเสียค่าตอบแทนสูงขึ้นกว่าเดิมด้วย
นายวิลเลียม โจนส์ (William Jones) ผู้เชี่ยวชาญปัญหาระหว่างประเทศจากสหรัฐฯ ผู้อำนวยการวารสาร EIR (the Executive Intelligence Review) ของสหรัฐฯ ประจำวอชิงตันระบุว่า การที่สหรัฐฯ หนุนฟิลิปปินส์เรียกร้องอธิปไตยเหนือทะเลจีนใต้อย่าง "ดื้อดันยิ่งขึ้น" เป็นการออกห่างจากจุดยืนเดิมที่ว่าจะไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในปัญหาทะเลจีนใต้ การที่สหรัฐฯ เข้าแทรกเป็นสาเหตุประการใหญ่ที่สุดที่ทำให้สถานการณ์ทะเลจีนใต้เลวร้ายลง
ก่อนหน้านี้นายวิลเลียม โจนส์ยังตีพิมพ์บทความระบุชื่อว่า การที่สหรัฐฯ ไม่ยอมเป็นประเทศภาคี "สนธิสัญญากฎหมายว่าด้วยทะเลแห่งสหประชาชาติ" ก็เพราะต้องการรักษาผลประโยชน์ส่วนตัว แถมยังเดินหน้ายุทธศาสตร์ "เสรีภาพในการเดินเรือ" โดยลำพัง ให้เรือรบสหรัฐฯ โอ้อวดแสนยานุภาพหน้าประตูประเทศอื่น รวมถึงรุกล้ำอธิปไตยน่านน้ำของจีน และหมายจะหาพันธมิตรจัดตั้ง "มินินาโต้" ขึ้นในทะเลจีนใต้ ทั้งนี้และทั้งนั้นจะทำให้ความเป็นไปได้ในการแก้ไขปัญหาทะเลจีนใต้ด้วยสันติวิธีลดถึงขีดต่ำสุด
(YIM/LING)