ศาสตราจารย์สือ ยินหงเห็นว่า อิทธิพลภายนอกเข้ามาแทรกแซง ทำให้สถานการณ์ทะเลหนานไห่มีความเสี่ยงสูง สื่อมวลชนสหรัฐฯ เผยว่า เรือรบสหรัฐฯ 7 ลำรวมทั้งเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส โรนัลด์ เรแกนได้รวมตัวที่ทะเลหนานไห่ โดยเฉพาะใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ มีเรือพิฆาตติดจรวด 3 ลำพยายามแอบเข้าใกล้หมู่เกาะของจีนหลายครั้ง มุ่งใช้แรงกดดันกับจีน ก่อนหน้านี้ นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนได้โทรศัพท์พูดคุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ โดยเน้นว่า ควรยุติละครทางการเมืองนี้ได้แล้ว และเร่งรัดสหรัฐฯ ระมัดระวังวาจาและพฤติกรรม อย่าใช้พฤติกรรมใดๆ ที่ทำลายอธิปไตยและความมั่นคงของจีน เขาวิเคราะห์ว่า แม้ว่าจีนกับสหรัฐฯ ยังคงตั้งตัวเป็นปรปักษ์กันในเชิงยุทธศาสตร์ แต่ยังคงสามารถควบคุมความเสี่ยงการปะทะทางทหารได้อย่างเต็มที่
เขากล่าวว่า ความเสี่ยงที่หนักที่สุด คือความเสี่ยงการปะทะทางทหารระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ในทะเลหนานไห่ ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่ควบคุมได้ อันที่จริง พร้อมกับการตั้งตัวเป็นปรปักษ์และมีการแข่งขันมากขึ้นเชิงยุทธศาสตร์ในทะเลหนานไห่ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ สองประเทศก็ได้บรรลุความเห็นเป็นเอกฉันท์ด้วย จึงมองในแง่ดีในเรื่องเกิดการปะทะทางทหาร แม้ว่าจีนจะปกป้องสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายของจีนในทะเลหนานไห่อย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ แต่จีนก็พยายามหลีกเลี่ยงเกิดการปะทะกับประเทศริมฝั่งทะเลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะประเทศที่มีข้อขัดแย้งกับจีนในปัญหาทะเลหนานไห่ จีนยังใช้ความพยายามต่อไปเช่นเดิม
พร้อมกับการพัฒนาประเทศ จีนมีอิทธิพลนับวันมากขึ้นในทะเลหนานไห่ ฉะนั้น เวียดนาม ฟิลิปปินส์และมาเลเซียที่เป็นประเทศมีความต้องการใช้ประโยชน์จากหนานไห่จึงรู้สึกเป็นห่วง ซึ่งเป็นท่าทีปกติ ประเทศที่เกี่ยวข้องยังคงมีข้อขัดแย้งต่อไปในระยะยาว แต่จนถึงปัจจุบัน นอกจากฟิลิปปินส์เอง ยังไม่มีประเทศใดประเทศหนึ่งที่อยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก้าวออกมาแถลงว่าสนับสนุนฟิลิปปินส์ ต่อต้านประเทศจีน
Yim/Ping