เมื่อเร็วๆ นี้ มีงานสัมมนาคลังสมองระดับสูงว่าด้วยปัญหาทะเลจีนใต้ ความร่วมมือและการพัฒนาส่วนภูมิภาคที่จัดขึ้นโดยสถาบันวิจัยชายแดนจีนในสังกัดสภาสังคมศาสตร์จีนที่สิงคโปร์ ผู้เชี่ยวชาญหลายคนจากกลุ่มประเทศอาเซียนที่ร่วมประชุมระบุว่า ความสัมพันธ์จีน-อาเซียนมีศักยภาพการพัฒนาอย่างใหญ่หลวง ไม่ควรได้รับผลกระทบจากปัญหาทะเลจีนใต้
นายวิน ติ่ง บรรณาธิการนิตยสารนอร์ธสตาร์ของพม่าระบุว่า งานสัมมนาครั้งนี้ได้เปิดหน้าต่างให้โลกภายนอกเรียนรู้นโยบายทะเลจีนใต้ของจีน ทำให้ตนมีความรู้ความเข้าใจลึกซึ้งยิ่งขึ้นต่อปัญหาทะเลจีนใต้และจุดยืนของจีนในปัญหาทะเลจีนใต้
นาย กวี จงกิจถาวร นักวิเคราะห์สถาบันการศึกษาความมั่นคงและนานาชาติจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยระบุว่า ขณะนี้ กลุ่มประเทศอาเซียนกำลังใช้ความสุขมรอบคอบ หวังว่า จีน-ฟิลิปปินส์จะแก้ไขข้อขัดแย้งระหว่างกันโดยตรง โดยส่วนตัวเห็นว่า ปฏิญญาว่าด้วยแนวปฏิบัติของภาคีในทะเลจีนใต้ หรือ DOC และระเบียบปฏิบัติ หรือ COC ในปัญหาทะเลจีนใต้จะได้รับการปฏิบัติตามมากขึ้น ฝ่ายต่างๆ ต้องปฏิบัติตามความเข้าใจร่วมกันที่ได้บรรลุไว้แล้ว ทั้งนี้เป็นหนทางที่ถูกต้องในการผ่อนคลายสถานการณ์ทะเลจีนใต้
นายชาห์ริมาน ล็อกแมน นักวิเคราะห์ระดับสูงสถาบันวิจัยยุทธศาสตร์และกิจการระหว่างประเทศของมาเลเซียระบุว่า ยุทธศาสตร์ความสัมพันธ์แบบหุ้นส่วนระหว่างจีนกับอาเซียนมีศักยภาพอย่างใหญ่หลวง ไม่ควรได้รับผลกระทบจากปัญหาทะเลจีนใต้เพียงปัญหาเดียว ตรงกันข้าม เราควรพิจารณาจากสถานการณ์ใหญ่ ส่งเสริมการค้าและการลงทุน เสริมสร้างความร่วมมือระหว่างองค์การทางการเมืองกับองค์การด้านความมั่นคง เพื่อเพิ่มความเข้าใจระหว่างประชาชนให้มากขึ้น
ส่วนนายหลี่ หมิงเจียง รองศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยหนานหยางสิงคโปร์ชี้ให้เห็นว่า ไม่ต้องสงสัยเลยว่า การหารือและการเจรจาเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการแก้ไขข้อพิพาททะเลจีนใต้ กรณีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและภาคปฏิบัติแสดงให้เห็นว่า ทั้งนี้เป็นการกระทำที่มีประสิทธิภาพและตรงกับความเป็นจริง