เมื่อเร็วๆ นี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศคาดการณ์ว่า อัตราเติบโตของเศรษฐกิจโลกปีนี้กับปีหน้าจะเป็น 3.1% และ 3.4% ส่วนธนาคารโลกคาดการณ์ว่า อัตราเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐอเมิรกา ญี่ปุ่นและยุโรปจะ้เป็น 1.9% 0.5% และ1.6% ตามลำดับ ซึ่งก็ล้วนต่ำกว่าการคาดการณ์ในต้นปี ในบรรดาประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ มีเพียงจีนกับอินเดียเท่านั้นที่ยังคงรักษาการเติบโตที่ค่อนข้างสูง คาดว่ารัสเซียกับบราซิลจะลดลง 1.2% และ 1.4% ซึ่งมากกว่าการคาดการณ์ในต้นปี
ผู้เชี่ยวชาญจาก Peterson Institute for International Economics เห็นว่า เศรษฐกิจโลกพัฒนาอย่างไม่สมดุล ประเทศพัฒนาแล้วอยู่ในช่วงฟื้นฟู ส่วนประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่มีการส่งออกสินค้ารายใหญ่น้อยลง แต่ประเทศที่มีการนำเข้ามากกว่าการส่งออกยังคงมีการพัฒนาค่อนข้างเร็ว
รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยกองทุนการเงินระหว่างประเทศเห็นว่า ขณะนี้ กำลังการผลิตของจีนเกินความต้องการของตลาด จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจและจัดสรรทรัพยากรใหม่ แต่การทำเช่นนี้จะส่งผลให้การพัฒนาเศรษฐกิจชะลอตัวลง แต่อย่างไรก็ตาม จีนยังคงเป็นพลังหลักในการผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจโลก
นายจวง จวี้จง รองหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชียเห็นว่า การปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจจะเพิ่มศักยภาพการสร้างสรรค์และกำลังแข่งขันของวิสาหกิจจีน สร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ ส่งเสริมนวัตกรรมและยกระดับอุตสาหกรรมให้สูงขึ้น