สถิติจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศแสดงว่า ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา การเติบโตของเศรษฐกิจโลกนั้น มี 35% มาจากประเทศจีน จนถึงปลายปี 2020 จีนยังคงจะครองสัดส่วน 30% ของการเติบโตของเศรษฐกิจโลกอีกต่อไป
จีนเป็นประเทศที่มียอดมูลค่าเศรษฐกิจมากเป็นอันดับที่ 2 ของโลก แต่ GDP เฉลี่ยต่อคนของจีนเป็นเพียง 1 ใน 5 ของสหรัฐ ดังนั้น ยังมีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก การเติบโตอย่างยั่งยืนของเศรษฐกิจจะเป็นพลังขับเคลื่อนการฟื้นฟูของเศรษฐกิจโลก นายจาง ลี่ฉุน นักวิจัยเศรษฐกิจมหภาค ศูนย์วิจัยการพัฒนาแห่งคณะรัฐมนตรีจีนกล่าวว่า เศรษฐกิจจีนยังคงแสดงบทบาทเป็นเสมือน "หัวรถจักร" ของเศรษฐกิจโลกอย่างมีเสถียรภาพ
รองศาสตรจารย์จู อันตงจากมหาวิทยาลัยชิงหัวของจีนเห็นว่า ในยุคสมัยก่อนที่ยอดมูลค่าเศรษฐกิจจีนค่อนข้างน้อย และมีการติดต่อสัมพันธ์กับต่างประเทศน้อยนั้น ทั่วโลกจึงไม่มีความสนใจต่อเศรษฐกิจจีนมากนัก แต่ปัจจุบัน สายตาชาวโลกฟอกัสที่ประเทศจีน สะท้อนให้เห็นว่า เศรษฐกิจจีนมีความสำคัญยิ่งต่อเศรษฐกิจโลก
ถึงแม้ยอดการนำเข้าส่งออกของจีนในปี 2015 ลดต่ำลง 7% เมื่อเทียบกับปี 2014 แต่ยังมากถึง 3.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ สาเหตุหลักที่ทำให้ยอดการนำเข้าส่งออกของจีนลดน้อยลงคือ แม้ราคาสินค้าเทกองลดต่ำลง แต่ปริมาณสินค้าเทกองที่จีนได้นำเข้าประเทศนั้นกลับเพิ่มมากขึ้น คาดว่า จีนยังคงจะครองอันดับที่ 1 ของประเทศผู้ส่งออก และเป็นอันดับที่ 2 ของประเทศผู้นำเข้าของโลก
แผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมระยะ 5 ปีฉบับที่ 13 ของจีนมีข้อเสนอว่า จะใช้นโยบายส่งเสริมให้ทุกครอบครัวมีลูก 2 คน กระตุ้นบริษัทสร้างบ้านให้ลดราคาขายบ้าน และยกเลิกข้อจำกัดในการซื้อบ้าน ต่อไปในอนาคต รัฐบาลจีนก็จะเพิ่มการลงทุนต่อโครงสร้างพื้นฐานทุกประเภท ทั้งหมดนี้จะก่อให้เกิดผลประโยชน์อันใหญ่หลวงเพื่อกระจายสู่ประชาชน และกระตุ้นให้ตลาดจีนขยายตัวใหญ่ขึ้น และขับเคลื่อนความต้องการวัตถุดิบในตลาดทั่วโลก
YIMFENG