วันที่ 4 ตุลาคมนี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ประกาศรายงาน World Economic Outlook ฉบับใหม่ที่กรุงวอชิงตันว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกยังอ่อนแอและไม่มั่นคง การที่ลัทธิกีดกันทางการค้าในท้องที่ต่างๆทั่วโลกเพิ่มขึ้นนั้น เป็นอุปสรรคที่ขัดขวางการเติบโตของเศรษฐกิจโลกอีก รายงานดังกล่าวยังคงรักษาการคาดหมายเมื่อเดือนกรกฎาคมปีนี้ตามเดิมว่า อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจจีนปีนี้เป็น 6.6% และปีหน้าเป็น 6.2% โดยยอมรับผลงานการเปลี่ยนรูปแบบทางเศรษฐกิจของจีนเพื่อบรรลุการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เตือนความเสี่ยงที่การปล่อยเงินกู้ขยายตัวมากขึ้น

นาย Maurice Obstfeld หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์กองทุนการเงินระหว่างประเทศกล่าวขณะประกาศรายงานฉบับใหม่ว่า การเติบโตของเศรษฐกิจโลกยังค่อนข้างอ่อนแอ ทั้งๆที่ในไตรมาสที่แล้วไม่ได้เกิดการชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด รายงานระบุว่า ปี 2016 การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศพัฒนาชะลอตัว การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาได้ชดเชยความเสียหายของประเทศพัฒนาจำนวนหนึ่ง เนื่องจากไม่มีปฏิบัติการทางนโยบายไปสนับสนุนธุรกรรมทางเศรษฐกิจทั้งระยะสั้นและระยะยาว ปัจจัยทางลบด้านเศรษฐกิจและการเมืองทำให้การเติบโตของเศรษฐกิจโลกยังดำเนินไปในระดับต่ำต่อ ซึ่งมีความอันตรายอย่างยิ่ง

แม้รายงานดังกล่าวรักษาการคาดหมายว่า อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลกปีนี้อยู่ที่ 3.1% และปีหน้าอยู่ที่ 3.4% แต่ปรับการคาดหมายต่อเศรษฐกิจประเทศพัฒนารวมถึงสหรัฐฯและยุโรปให้ต่ำลง ขณะตั้งความหวังต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาจำนวนหนึ่ง

รายงานนี้เห็นว่า จีนมีฐานะทางเศรษฐกิจในโลกเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น การที่จีนบรรลุการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องโดยอาศัยการบริโภคและบริการเป็นสำคัญนั้น จะมีความหมายสำคัญยิ่งต่อเศรษฐกิจโลก นาย Maurice Obstfeld ยังกล่าวว่า จีนยังต้องระวังการปล่อยเงินกู้เพิ่มขึ้นเร็วเกิน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเงินในระยะยาว

รายงานดังกล่าวยังเตือนว่า ปัญหาเศรษฐกิจโลกยังไม่ได้รับการแก้ไขด้วยดี เพราะภายใต้สถานการณ์ที่อุปสงค์ซบเซา การลงทุนและอัตราการเพิ่มของการผลิตต่างก็ลดต่ำลง ตลาดแรงงานก็ไม่คึกคัก

Yim/Sun