เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กลุ่มนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ที่มาจากสมาคมเอเชียสหรัฐฯ และมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียซานดิเอโก ร่วมเสนอรายงานหัวข้อ "นโยบายของสหรัฐฯ ต่อจีน" โดยเสนอรัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐฯ ว่า ไม่ควรเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์จีนที่ดำเนินอย่างต่อเนื่องในรัฐบาลหลายสมัยที่ผ่านมา อย่าเพิ่มแรงกดดันจีนในปัญหาพิเศษหลายปัญหา
รายงานระบุว่า ตั้งแต่จีนกับสหรัฐฯ สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในปี 1979 เป็นต้นมา รัฐบาลสหรัฐฯ แต่ละสมัย ไม่ว่าจากพรรคเดโมแครตหรือพรรครีพับลิกัน ล้วนดำเนินยุทธศาสตร์พื้นฐานดังกล่าว นั่นก็คือกระชับความร่วมมือทางการค้า ส่งเสริมให้จีนเข้าร่วมประชาคมโลก
ปีหลังๆ นี้ วงการวิชาการของสหรัฐฯ มีความไม่แน่นอนต่อยุทธศาสตร์ดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น บางคนเห็นว่าควรจะเพิ่มการยับยั้งจีน หลังจากนายทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แล้ว มีนักวิเคราะห์แสดงความวังกลว่า สหรัฐฯ มีความเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์ดังกล่าว
รายงานดังกล่าวเน้นว่า ประเทศใหญ่ที่กำลังเจริญเข้มแข็งยิ่งขึ้นนั้น คงไม่ใช่ศัตรูของสหรัฐฯ จึงควรรักษายุทธศาสตร์พื้นฐานต่อจีน เพราะสอดคล้องกับผลประโยชน์ของสหรัฐฯ และมีบทบาทในการรักษาสันติภาพและความมั่นคงของภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก
แต่ขณะเดียวกัน รายงานฉบับดังกล่าวก็เสนอให้รัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐฯ ใช้ท่าทีแข็งกร้าวในบางปัญหา โดยเฉพาะความเสมอภาคของนโยบายการค้าการลงทุน
รายงานเน้นว่า จีนกำลังกลายเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่ของโลก ขณะที่กำหนดนโยบายต่อจีน ควรพิจารณาสภาพความเป็นจริงที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ กับจีนมีส่วนพเกี่ยวพันกันอย่างกว้างขวางและลึกซึ้ง ดังนั้น สองประเทศล้วนไม่สามารถได้ประโยชน์จากความยากลำบากทางเศรษฐกิจของอีกฝ่าย
(In/Lin)