จีนยังมีคนจนหรือ เมื่อปี 2015 จีนยังมีประชากรยากจนจำนวน 70 ล้านคน นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนสั่งให้กำหนดเป้าหมายที่จะขจัดสภาพความยากจนโดยสิ้นเชิงในปี 2020

การประชุม "สองสภา" (สภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติและสภาปรึกษาการเมืองแห่งชาติ) ของจีนสิ้นสุดลงช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา ระหว่างการประชุมมีการรายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2016 และการแถลงนโยบายและแผนงานปี 2017 ของรัฐบาล โดยชี้ให้เห็นว่า ปี 2016 ได้บรรลุเป้าหมายการขจัดความยากจนที่กำหนดไว้ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระยะ 5 ปีฉบับที่ 13 (2016 - 2020) ทั้งได้กำหนดเป้าหมายที่จะลดประชากรผู้ยากจนอีก 10 ล้านคนในปี 2017

รายงานข่าวดังกล่าวได้รับความสนใจจากสื่อข่าวต่างประเทศ และพากันให้ความสนใจกับวิธีการแก้ไขปัญหาความยากจนของจีน โดยเฉพาะคำหนึ่งที่ว่า "ช่วยเหลือผู้ยากจนอย่างตรงจุด " เพื่อศึกษาเรียนรู้ประสบการณ์ของจีนและมาตรการที่เป็นรูปธรรมที่ทำให้เกิดผลสำเร็จ

เว็บไซด์ "หนังสือพิมพ์แห่งชาติ" ของบราซิลรายงานว่า นโยบายและแผนงานของรัฐบาลจีนปี 2017 เน้นว่า จะรักษาการเติบโตของเศรษฐกิจที่มั่นคง ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญคือรักษาโอกาสการมีงานทำ สร้างผลประโยชน์แก่ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน

เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักข่าวรัสเซียออกบทความหัวข้อ "อีกไม่นานจีนจะไม่มีคนจน" โดยชื่นชมผลสำเร็จด้านการช่วยเหลือผู้ยากจน บทความระบุว่า จีนได้สร้างสถิติโลกใหม่ในด้านการขจัดความยากจน ช่วง 30 ปีที่ผ่านมา แผ่นดินนี้มีประชากร 700 ล้านคนพ้นจากความยากจน และปีนี้ จีนกำหนดเป้าหมายว่า ภายใน 4 ปีข้างหน้า จะทำให้ตัวเลขผู้ยากจนกลายเป็นศูนย์

บทความชี้ให้เห็นว่า การขจัดความยากจนมีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหาสังคมเป็นเวลานานแล้ว ประสบการณ์ที่ผ่านมาพิสูจน์ให้เห็นว่า "กำลังจากตลาด" คงไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ รัฐบาลจีนทำให้เราเห็นว่า การแก้ไขปัญหาความยากจน ต้องลงมือกระทำอย่างแท้จริง ใช้มาตรการต่างๆ อาทิ ส่งเสริมครูอาจารย์ไปสอนหนังสือในเขตยากจนที่สุด ทำให้เด็กๆ ในเขตเหล่านี้มีโอกาสได้รับการศึกษา เสนอข้อมูลที่ทันสมัย ส่งเมล็ดพันธุ์คุณภาพดีและสัตว์เลี้ยงให้แก่ประชาชนในเขตยากจน เป็นต้น 

เมื่อเร็ว นี้ หนังสือพิมพ์ "นักสังเกตการณ์" ของปากีสถานออกบทความหัวข้อ "จีนเอาชนะสงครามต่อต้านความยากจนได้อย่างไร" โดยระบุว่า รัฐบาลจีนตัดสินใจที่จะบรรลุเป้าหมายขจัดสภาพความยากจน ทำให้ทั่วทั้งสังคมพอกินพอใช้ในปี 2020

เศรษฐกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็วและมั่นคง ทำให้รัฐบาลจีนมีความมั่นใจในการบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ช่วง 4 ปีที่ผ่านมา จีนมีประชากรยากจนจำนวน 55 ล้านคนพ้นจากความยากจนด้วยความสำเร็จ นอกจากนั้น จีนยังได้เสนอแนวคิดที่ว่า "ช่วยเหลือผู้ยากจนอย่างตรงจุด" ใช้มาตรการส่งเสริมต่างๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายในอีก 4 ปีข้างหน้า

คำว่า "ช่วยเหลือผู้ยากจนอย่างตรงจุด" หมายถึงการใช้ทรัพยากรในสถานที่ที่ถูกต้องและเวลาที่เหมาะสม รัฐบาลจีนได้จัดทำคลังข้อมูลประชากรยากจนอย่างละเอียด กำหนดตารางเวลาการบรรลุเป้าหมายช่วยเหลือผู้ยากจน จัดการอย่างเหมาะสมตามสภาพความเป็นจริงอย่างเป็นรูปธรรมของแต่ละเขต กระทั่งแต่ละครอบครัวด้วย สร้างโอกาสการมีงานทำให้ประชาชนมากขึ้น และจัดให้เยาวชนผู้ยากจนเข้าชั้นเรียน เพื่อฝึกอบรมให้เป็นช่างฝีมือ

บทความเน้นว่า การกำหนดนโยบายเป็นเพียงขั้นแรก แต่การปฏิบัติตามนโยบายที่เกี่ยวข้องเป็นภารกิจอันพึงมีของสมาชิกพรรคฯ และข้าราชการระดับต่างๆ ข้าราชการท้องถิ่นต้องติดต่อกับประชาชนและนักธุรกิจท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด กำหนดแผนการแก้ไข รวมถึงการะดมทุน ตลาด ตลอดจนกลุ่มเอ็นจีโอ ใช้ทรัพยากรทั้งหมดเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน ขณะเดียวกัน ผู้ที่มีพฤติกรรมคอรัปชั่นหรือหลอกหลวงเพื่อได้เงินจากกองทุนช่วยเหลือผู้ยากจนนั้น จะถูกลงโทษอย่างหนักที่สุด การทำงานที่ขยันและเอาจริงเอาจังของรัฐบาล ทำให้จีนประสบผลสำเร็จที่ประเทศอื่นๆ รู้สึก "ไม่น่าเชื่อ"

(In/Lin)