จีนยังมีคนจนหรือ เมื่อปี 2015 จีนยังมีประชากรยากจนจำนวน 70 ล้านคน นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนสั่งให้กำหนดเป้าหมายที่จะขจัดสภาพความยากจนโดยสิ้นเชิงในปี 2020
ยุทธศาสตร์ "ช่วยเหลือผู้ยากจนอย่างตรงจุด" ของรัฐบาลจีนเป็นประเด็นสำคัญที่ไดรับความสนใจจากสื่อต่างประเทศ "นิตยสารฟอร์จูน" และ "เครือข่ายการเงินควอทซ์" ของสหรัฐฯ ได้รายงานข่าวเกี่ยวกับหมู่บ้านบางแห่งในเขตยากจนของจีน ใช้โอกาสด้านอีคอมเมิร์ซ ช่วยตนเองพ้นจากความยากจน อย่างเช่นตำบล ต้าจี๋ มณฑลซานตุง ทางการได้จัดเงินทุนฝึกอบรมชาวท้องถิ่นด้านความรู้อีคอมเมิร์ซและการตัดเย็บเสื้อผ้า เสนอเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ และส่งเสริมให้นักธุรกิจรับสมัครชาวท้องถิ่นที่ใช้ชีวิตอย่างยากจนให้เข้ามาทำงาน สถิติแสดงให้เห็นว่า หลังจากเริ่มต้นการค้าอีคอมเมิร์ซไม่ถึง 4 ปี ก็ทำให้ผู้ยากจนจำนวน 6,300 คนในตำบลนี้พ้นจากความยากจน บทความระบุว่า ประสบการณ์นี้สามารถที่จะเลียนแบบและเผยแพร่ไปสู่เขตท้องที่อื่นๆ เพราะแต่ละพื้นที่ล้วนมีผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์ของตน แต่สำหรับหมู่บ้านยากจนที่อยู่เขตทุรกันดาร โครงสร้างพื้นฐานไม่ค่อยดี คงไม่ง่ายที่จะใช้วิธีนี้
ยุทธศาสตร์ "ช่วยเหลือผู้ยากจนอย่างตรงจุด" ของรัฐบาลจีน มิเพียงแต่มีส่วนช่วยให้ภารกิจขจัดควมยากจนของจีนประสบผลสำเร็จ ทั้งยังมีบทบาทเป็นตัวอย่างชี้นำประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ หนังสือพิมพ์ซิมบับเวเฮรัลด์ (Zimbabwe Herald) สื่อสำคัญของซิมบับเว ออกบทความหัวข้อ "ช่วยเหลือผู้ยากจน – ประสบการณ์จากจีน" ระบุว่า บรรดาประเทศแอฟริกากำลังตกอยู่ในความยากจน แต่จีนมีประสบการณ์ช่วยเหลือผู้ยากจนที่เราสามารถศึกษาเรียนรู้ ยุทธศาสตร์ช่วยเหลือผู้ยากจนของจีนเป็นแบบอย่างหนึ่งที่ดีที่สุดในโลก ที่แสดงให้ชาวโลกเห็นว่า มีแต่รวมแรงร่วมใจเท่านั้น ประเทศใดๆ ล้วนสามารถบรรลุเป้าหมายช่วยเหลือผู้ยากจน ประเทศแอฟริกาต้องมีเจตนารมณ์แบบนี้
บทความดังกล่าวได้สรุปประสบการณ์ 4 ประการเพื่อผลสำเร็จจากกระบวนการลดความยากจนของจีน คือ หนึ่ง นโยบายปฏิรูปและเปิดประเทศของจีน ได้ดึงนักลงทุนจำนวนมาก ทำให้จีนสามารถดำเนินกระบวนการอุตสาหกรรมอย่างเร็ว จนถึงทศวรรษปี 1990 กระบวนการอุตสาหกรรมทำให้สภาพยากจนภายในเมืองหายไป สอง การศึกษาภาคบังคับ ทำให้ชาวจีนมีความรู้ทางเทคนิคในการประกอบอาชีพในวงการอุตสาหกรรม สาม การปฏิรูปการเกษตรเป็นยาพิเศษที่แก้ไขปัญหายากจนในเขตชนบท สี่ นโยบายการช่วยเหลือผู้ยากจนที่มีการวางแผนอย่างละเอียดและตรงจุดตรงประเด็น ก็เป็นเงื่อนไขสำคัญที่ทำให้ประสบผลสำเร็จ
นายวาดิ มิโร (Wadi Miro) ผู้สื่อข่าว "หนังสือพิมพ์ข่าว" ของประเทศโมซัมบิก มาทำข่าวการประชุม "สองสภา" ที่จัดขึ้นในกรุงปักกิ่ง เขากล่าวกับเพื่อนที่เป็นผู้สื่อข่าวว่า "เราทราบว่า จีนประสบผลสำเร็จยิ่งใหญ่ด้านการขจัดความยากจน โมซัมบิกเป็นประเทศที่ยากจน ประสบการณ์ของจีนมีประโยชน์ต่อเราอย่างมาก จีนมิเพียงแต่ประสบผลสำเร็จด้านการขจัดสภาพความยากจนภายในประเทศเท่านั้น แต่ยังพยายามดำเนินความร่วมมือขจัดความยากจนระหว่างประเทศ ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีชาวจีนเดินทางมาประเทศเรามากขึ้น ช่วยเราสร้างทางรถไฟ ทางหลวงและอาคารทันสมัย ปัจจุบัน โรงแรมระดับดีที่สุดของโมซัมบิกก็สร้างขึ้นโดยบริษัทจีน มิตรภาพระหว่างจีนกับโมซัมบิกกำลังอยู่ในช่วงที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ ผมเห็นว่า สิ่งที่แตกต่างกับความช่วยเหลือที่พ่วงท้ายด้วยเงื่อนไขของประเทศตะวันตกนั้นคือ จีนใช้ท่าทีที่เปิดกว้างและรองรับความหลากหลาย ยินดีแบ่งปันประสบการณ์ด้านการพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศอื่นๆ ประเทศใหญ่ที่พัฒนาเร็วอย่างรวดเร็วแต่มีใจกว้างขนาดนี้ เป็นสิ่งที่น่าชื่นชมอย่างยิ่ง "
(In/Lin)
