เมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน คณะรัฐมนตรีจีนประกาศตั้งเขตเมืองใหม่สงอัน ก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง เมื่อกล่าวถึงพื้นที่ที่เป็นเขตเมืองใหม่ดังกล่าว สิ่งที่คนส่วนใหญ่นึกถึงก่อนอื่นคงเป็นทะเลสาบป๋ายหยางเตี้ยน ซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดใหญ่ที่สุดในเขตที่ราบหวาเป่ย และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจีน
เป็นที่ทราบกันว่า กรุงปักกิ่งเป็นเมืองที่ขาดแคลนทรัพยากรน้ำ ปัญหาดังกล่าวเป็นอุปสรรคที่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาของกรุงปักกิ่งตลอดมา ส่วนที่ตั้งเขตเมืองใหม่สงอันอุดมด้วยทรัพยากรน้ำเนื่องจากมีทะเลสาบป๋ายหยางเตี้ยน นับเป็นความได้เปรียบทางทรัพยากรที่เด่นชัด นอกจากนี้ ระดับการบุกเบิกในเขตนี้ยังค่อนข้างต่ำ จึงมีศักยภาพการพัฒนาที่แฝงอยู่มากมาย
วันที่ 23 กุมภาพันธ์ปีนี้ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนเดินทางไปตรวจเยี่ยมที่อำเภออันซิน มณฑลเหอเป่ย และร่วมสัมมนาการดำเนินการตั้งเขตเมืองใหม่สงอัน โดยได้กำหนดมาตรฐานการก่อสร้างเขตเมืองใหม่ดังกล่าวในระดับสูง และระบุว่าจะพยายามสร้างเขตสงอันให้เป็นเขตนำร่องนวัตกรรมที่ปฏิบัติตามแผนพัฒนารูปแบบใหม่ นายสี จิ้นผิงได้กำหนดภารกิจสำคัญ 7 ประการ ได้แก่
1.สร้างเมืองใหม่อัจฉริยสีเขียวที่มีระดับแนวหน้าในโลก
2.สร้างเมืองใหม่ที่มีภาวะนิเวศและสิ่งแวดล้อมที่ดี
3.พัฒนากิจการนิวไฮเทค โดยเฉพาะสั่งสมทรัพยากรและปัจจัยเชิงนวัตกรรม
4.ให้บริการสาธารณะระดับสูง และสร้างระบบสาธารณูปโภคชั้นเยี่ยม
5.สร้างระบบการคมนาคมขนส่งที่มีความสะดวก มีประสิทธิภาพสูง และประหยัดพลังงาน
6.ผลักดันการปฏิรูปเศรษฐกิจ แสดงบทบาทหลักของตลาดในการกระจายทรัพยากรและบทบาทการควบคุมมหภาคของรัฐบาลให้ดีขึ้น
7. ขยายการเปิดประเทศทุกด้านให้กว้างขึ้น สร้างเวทีใหม่ในความร่วมมือกับประเทศต่างๆทั่วโลก
ภารกิจเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า ต้องสร้างเมืองใหม่ขนาดใหญ่ที่ทันสมัยในเขตที่ระดับการบุกเบิกค่อนข้างต่ำ ขณะที่ต้องอนุรักษ์ภาวะนิเวศและสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการปฏิรูปและนวัตกรรมตั้งแต่ระดับนโยบาย พร้อมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้สูงขึ้น สำหรับด้านการก่อสร้างและการพัฒนา มีประสบการณ์ของเมืองเซินเจิ้นกับเขตเมืองใหม่ผู่ตงที่นำมาศึกษาได้ แต่ก็ต้องมีสิ่งท้าทายใหม่อีกมากมาย
มองจากทิศทางการพัฒนาเขตเมืองใหม่สงอันที่รัฐบาลกำหนดไว้แล้วเข้าใจได้ว่า เขตเมืองใหม่ดังกล่าวไม่ใช่เขตเมืองใหม่ทั่วไป หากเป็นเมืองใหม่พิเศษ ซึ่งต้องแบ่งเบาภาระปัจจุบันของกรุงปักกิ่งส่วนหนึ่ง
นักวิเคราะห์เห็นว่า กำลังของเศรษฐกิจจีนในอนาคตอยู่ที่กลุ่มเมืองระดับโลก 3 กลุ่ม ได้แก่ เขตปักกิ่ง-เทียนสิน-เหอเป่ย ดินดอนสามเหลียมแม่น้ำฉางเจียง และดินดอนสามเหลียมแม่น้ำจูเจียง