มาจีนแล้วถ้าไม่เจอปฏิกิริยาการเคลื่อนที่ของของเหลวหนืดในแนวโพรเจกไทล์ตามที่รโหฐาน หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่าเสมหะแล้ว ถือว่ามาไม่ถึงนะครับ โดยส่วนใหญ่เราจะได้เห็นพฤติกรรมเหล่านี้ในคนสูงอายุเสียมากกว่า เพราะคนจีนเชื่อว่าสิ่งนี้คือเครื่องบ่งบอกถึงอาการป่วย แต่ก็มีอย่างครับที่ได้รับความนิยมไม่ยิ่งหย่อนกันนั่นก็คือ "การสูบบุหรี่" บางคนติดถึงขนาดที่แค่เดินจากโรงอาหารไปที่ทำงาน 2 นาทีก็ต้องขอให้มีสักมวน
ข้อบังคับจีนว่าด้วยการห้ามสูบบุหรี่ในอาคารน่าจะเพิ่งมีไม่ถึง 2 ปีครับ ช่วงแรกที่เห็นข่าวก็คิดว่าไม่น่าจะได้ผล แต่หลังประกาศใช้ก็เห็นได้ชัดว่าคนที่เข้าไปสูบในห้องน้ำก็.....เข้าไปสูบในห้องถ่ายหนักแทนครับ (สรุปเห็นผลหรือเปล่าเนี่ย) เอาตรง ๆ จำนวนความถี่ที่ผมเข้าห้องน้ำแล้วจะได้กลิ่นก็ลดลงจริง ๆ ครับ
จนมาสัปดาห์นี้ก็มีเรื่องที่น่ายินดีเช่นกัน ทว่าครั้งนี้เป็นการขับเคลื่อนของภาคสังคมเสียด้วย โดยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมามีเหล่าจิตอาสาที่ทำงานในบริษัทรถบัสท้องถิ่นเมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน รวมตัวกันรณรงค์ให้คนงดสูบบุหรี่ตามป้ายรถโดยการให้นำบุหรี่ที่อยู่ในมือเปลี่ยนมาถือหมากฝรั่งแทน
การรณรงค์ที่ว่านี้มีขึ้นไม่แต่เฉพาะที่เจิ้งโจวเท่านั้นนะครับ ทว่าท้องที่ต่าง ๆ ในจีนอย่างเช่นที่โรงเรียนประถมในมณฑลอันฮุย หนู ๆ เขาก็ออกมารณรงค์งดสูบบุหรี่เช่นเดียวกัน
รายงานจากองค์การอนามัยโลกระบุว่าปัจจุบันในจีนยังมีประชาชนอีกถึงกว่า 300 ล้านคน หรือคิดเป็นเกือบ ๆ 1 ใน 3 ของสิงห์นักสูบทั่วโลก และหากจะเทียบให้เห็นภาพมากขึ้น ทุกวันนี้ถ้าเห็นชายจีนเดินผ่าน 100 คน จะมีถึง 68 คนที่ยังคงสูบบุหรี่ ตัวเลขที่สูงขนาดนี้ผมเองไม่แน่ใจว่ามีนัยสำคัญต่อมลพิษจีนด้วยหรือเปล่า (พูดเล่นนะครับ) ทางเลือกให้คนเลิกสูบบุหรี่ด้วยการใช้บุหรี่ไฟฟ้าก็ดูจะไม่ได้ผล กลับกันยิ่งทำให้เยาวชนอยากลองเพิ่มขึ้น
ชาวเน็ตจีนบางคนเมื่อได้เห็นข่าวนี้ก็แสดงความเห็นไปต่าง ๆ นานาครับ อย่างคุณที่ใช้นามแฝงว่า Verastar บอกว่าตนเพิ่งเริ่มหยุดสูบบุหรี่วันนี้ (วัดงดสูบบุหรี่โลก) เขาบอกอีกว่าไอเดียการแลกบุหรี่กับหมากฝรั่งนั้นสร้างสรรค์ดี และการที่คนหนึ่งคนหยุดสูบ ผลลัพธ์ที่ได้มันไม่ได้จบที่ตัวเขาเอง ซึ่งในที่นี้ผมเข้าใจว่าคุณ Veraster หมายถึงบุคคลรอบ ๆ ตัวเขาหรือ second hand smoke
ส่วนคุณ Josh ก็บอกว่าเขาหวังให้คนเลิกคิดว่านี่เป็นเรื่องส่วนตัว และอยากให้รัฐบาลออกกฎหมายจริงจังเสียทีแบบที่เคยออกกฎหมายเรื่องการทำแท้ง
ทรรศนะของผู้คนในโลกออนไลน์จีนก็ดูจะเห็นไปทางเดียวกัน แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นพฤติกรรมแล้วต้องใช้เวลาครับ ทุกวันนี้คนจีนใส่ใจในสุขภาพรูปร่างหน้าตากันมากขึ้น (ดูจากสถิติคนทำศัลยกรรมและจำนวนฟิตเนสที่เพิ่มขึ้นราวดอกเห็ด) ผมเชื่อว่าตัวเลขที่ว่านี้จะค่อย ๆ ลดลง ซึ่งเราก็คงจะได้เห็นรายงานทางการที่น่ายินดีนี้ในอนาคตอันใกล้