ปักกิ่ง --- เมืองที่มีมรดกโลกทางวัฒนธรรม 7 แห่ง
  2017-07-24 09:45:03  cri

พระราชวังกู้กง  (ถ้ายรูปโดย Wu Chaoying)

ปักกิ่งเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมของจีน เป็นเมืองที่มีมรดกโลกทางวัฒนธรรมมากที่สุดในจีน ปัจจุบัน ปักกิ่งมีมรดกโลกทางวัฒนธรรมรวมทั้งสิ้น 7 แห่ง ประกอบด้วย พระราชวังกู้กง(พระราชวังต้องห้าม) กำแพงเมืองจีน หอฟ้าเทียนถาน พระราชวังฤดูร้อน สุสาน 13 จักรพรรดิแห่งราชวงศ์หมิง แหล่งขุดค้นทางโบราณคดีโจวโข่วเตี้ยน และคลองขุดสายปักกิ่ง- หังโจว เมืองที่มีความทันสมัยและมีกลิ่นอายทางประวัติศาสตร์อันเข้มข้นแห่งนี้แม้จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวก็ตาม แต่ก็เป็นเมืองที่เปิดกว้าง รับสิ่งดีๆ ทุกอย่างได้ จึงเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดคนจากพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลกเดินทางมาทำงาน ท่องเที่ยวหรืออาศัยในมหานครแห่งนี้

พระราชวังกู้กง  (ถ้ายรูปโดย Wu Chaoying)

ปักกิ่งมีวิวัฒนาการมากว่า 3,000 ปี และมีประวัติศาสตร์ในการเป็นราชธานีกว่า 800 ปี ด้วยเหตุนี้ จึงมีโบราณสถานที่มีชื่อเสียงมากมายหลายแห่งในกรุงปักกิ่ง เช่น พระราชวังกู้กง กำแพงเมืองจีน และหอฟ้าเทียนถาน โบราณสถานเหล่านี้ล้วนส่อให้เห็นถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานและความหลากหลายของวัฒนธรรมดั้งเดิม

พระราชวังกู้กง  (ถ้ายรูปโดย Wu Chaoying)

พระราชวังกู้กงในฐานะมรดกโลกทางวัฒนธรรม 1ใน7 ของกรุงปักกิ่ง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขาดเสียไม่ได้สำหรับนักท่องเที่ยวทั้งจีนและต่างชาติที่เดินทางมากรุงปักกิ่ง พระราชวังกู้กงตั้งอยู่ในใจกลางของกรุงปักกิ่ง มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าเมืองต้องห้าม เป็นพระราชวังสมัยราชวงศ์หมิง และราชวงศ์ชิง เป็นสถาปัตยกรรมโบราณที่สร้างด้วยโครงสร้างไม้ที่มีขนาดใหญ่สุด และได้รับการอนุรักษ์เอาไว้สมบูรณ์ที่สุดในโลก จึงเป็นพระราชวังโบราณที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในโลก พระราชวังแห่งนี้เสมือนเป็นประวัตศาสตร์ที่ยังมีชีวิตของราชวงศ์หมิง และราชวงศ์ชิง กำลังรอคอยให้นักท่องเที่ยวเข้าไปสัมผัสอย่างละเอียด

พระราชวังฤดูร้อน  (ถ้ายรูปโดย Mi Baohua)

ส่วนพระราชวังฤดูร้อนได้ชื่อว่า เป็นพระตำหนักที่ประทับที่เป็นเสมือนพิพิธภัณฑ์พืชสวนที่ได้รับการอนุรักษ์สมบูรณ์มาก ภายในสวนแห่งนี้ มีทะเลสาบคุนหมิงที่สวยงามมาก มีภูเขาหมื่นปีที่เขียวขจี มีสถาปัตยกรรมที่สร้างลดหลั่นกันตามไหล่เขา เมื่อเดินเข้ามาในสถานที่แห่งนี้ ก็สามารถสัมผัสถึงความงดงามของพระตำหนักที่ประทับสมัยโบราณได้ทันที

จีนมีคำพังเพยว่า ไม่ได้พิชิตกำแพงเมืองจีนก็ไม่ใช่ชายชาตรี หมายความว่า หากไม่ได้ขึ้นไปบนกำแพงเมืองจีน ก็ไม่นับว่าเป็นผู้ที่มีความกล้าหาญ นี่สะท้อนให้เห็นถึงเจตนารมณ์ของประชาชาติจีนที่จะบากบั่นต่อสู้และก้าวหน้าตลอดไป กำแพงเมืองจีนเป็นสิ่งปลูกสร้างทางทหารเพื่อป้องกันศัตรูขนาดใหญ่ในสมัยโบราณ ใช้เวลาก่อสร้างกว่า 2,000 ปี มีความยาวกว่าหมื่นลี้ จึงมีชื่อเรียกว่า กำแพงหมื่นลี้ หากพูดในเชิงลึก กำแพงเมืองจีนเป็นสัญลักษ์แห่งการพิทักษ์ประเทศชาติ การรักษาสันติภาพ การป้องกันภัยคุกคามจากภายนอก และความปรารถนาที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสันติกับประชาชนประเทศอื่น การสร้างกำแพงเมืองจีนยังส่อให้เห็นถึงแนวคิดของชาวจีนที่มีตั้งแต่โบราณกาล คือ แสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง ยินดีที่จะมีการผสมผสานทางวัฒนธรรม และพัฒนาด้วยกัน สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 เคยตรัสว่า ทรงเคยเดินทางไปที่ต่างๆ ทั่วโลกมามากแล้ว แต่สิ่งที่สร้างความประทับใจมากที่สุดให้กับพระองค์คือ กำแพงเมืองจีน

หอฟ้าเทียนถาน  (ถ่ายรูปโดย Zu Yusheng)

พิธีบวงสรวงฟ้าในจีนเริ่มมีขึ้นตั้งแต่ราชวงศ์โจว หลังราชวงศ์ฮั่นเป็นต้นมา จักรพรรดิทุกยุคทุกสมัยให้ความสำคัญกับการประกอบพิธีบวงสรวงฟ้าอย่างมาก หอฟ้าเทียนถานเป็นสถานที่ประกอบพิธีบวงสรวงฟ้าในสมัยโบราณ นับเป็นสถานที่ประกอบพิธีบวงสรวงฟ้าที่มีขนาดใหญ่สุดและได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างสมบูรณ์ที่สุดในโลก และเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม 1ใน7 ของกรุงปักกิ่ง สถานที่แห่งนี้แสดงให้เห็นถึงประวัติศาสตร์การประกอบพิธีบวงสรวงฟ้าของจักรพรรดิในสมัยโบราณ จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งจีนและต่างชาติจำนวนมากให้เดินทางมาเที่ยวชม ชาวจีนในสมัยโบราณที่จัดพิธีบวงสรวงฟ้านั้นไม่ได้ขอเพียงให้ฝนตกตามฤดูกาล และให้การเก็บเกี่ยวได้ผลอุดมสมบูรณ์เท่านั้น แต่ยังแสดงออกถึงการขอบคุณฟ้าด้วย ทั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมจีนในการสร้างความกลมกลืนกันระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ ปัจจุบัน มีการจัดพิธีบวงสรวงฟ้าที่เปี่ยมด้วยกลิ่นอายของวัฒนธรรมดั้งเดิมที่หอฟ้าเทียนถานช่วงก่อนหรือหลังเทศกาลตรุษจีนทุกปี โดยให้นักแสดงใส่ชุดของจักรพรรดิและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่สมัยโบราณร่วมพิธีตามกำหนดการดั้งเดิม ทั้งนี้เพื่ออนุรักษ์ประเพณีดั้งเดิมไว้ และทำให้นักท่องเที่ยวทั้งจีนและต่างชาติมีโอกาสสัมผัสและเข้าใจวัฒนธรรมบวงสรวงฟ้าในสมัยโบราณของจีนมากขี้น

สุสาน 13 จักรพรรดิแห่งสมัยราชวงศ์หมิง

ส่วนสุสาน 13จักรพรรดิแห่งสมัยราชวงศ์หมิง แหล่งขุดค้นทางโบราณคดี โจวโข่วเตี้ยน และคลองขุดสายปักกิ่ง- หังโจวที่มีประวัติศาสตร์กว่า 2,500 ปี แม้ชื่อสถานที่เหล่านี้อาจไม่เป็นที่คุ้นเคยของนักท่องเที่ยวต่างชาติก็ตาม แต่โบราณสถานเหล่านี้ บ้างเป็นสัญลักษณ์ของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของพระราชสำนัก บ้างเคยมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของปักกิ่ง จึงล้วนเป็นสิ่งล้ำค่าทางประวัติศาสตร์ที่ไม่อาจหาสิ่งใดเสมอเหมือนได้ เมื่อหลายร้อยปีก่อน มีพระบรมวงศานุวงศ์ ชนชั้นผู้ดี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ผู้ที่มีความรู้ความสามารถมากเป็นพิเศษจำนวนมากอาศัยอยู่ที่ปักกิ่ง ทำให้มีโบราณสถานที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากในเมืองแห่งนี้ เช่น สุสาน 13 จักรพรรดิแห่งราชวงศ์หมิง และคลองขุดสายปักกิ่ง- หังโจว ปัจจุบัน สิ่งเหล่านี้กลายเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่เราสามารถสืบทอดและรำลึกถึงอดีตได้

ไม่ว่าจะเป็นหอฟ้าเทียนถานที่จักรพรรดิใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีบวงสรวงฟ้า หรือพระราชวังฤดูร้อนที่มีทิวทัศน์สวยงาม หรือกำแพงเมืองจีนที่มีความสง่างามยิ่งใหญ่ โบราณสถานเหล่านี้ล้วนเสมือนเป็นศิลาจารึกแห่งวัฒนธรรม ทำให้เราสามารถสืบทอดประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมดั้งเดิมตลอดไป (IN/cai、ping)

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040