เมื่อผ่านประตูฉงกวงเข้าไป จะเป็นห้องแรก ซึ่งใช้เป็นที่อ่านพระบรมราชโองการ ประกาศข้อกำหนดของตระกูล และพิจารณาตัดสินคดีสำคัญ ตลอดจนจัดพิธีเฉลิมฉลองเทศกาลและวันคล้ายวันเกิด สิ่งของที่ตั้งไว้บนโต๊ะเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงตำแหน่ง อำนาจและฐานะอันสูงส่งของขงจื่อ เช่น กลอง ป้าย ธงมังกร ธงหงส์ ธงเสือ ร่ม และพัดลมเป็นต้น
ห้องที่ 2 เป็นที่รับรองขุนนางระดับสูง จัดสอบวิชามารยาทสังคมและดนตรี มีป้ายที่เขียนตัวอักษร "寿" ที่แปลว่าอายุยืน ซึ่งเป็นลายพระหัตถ์ของพระนางซูสีไทเฮา นอกจากนี้ ยังมีภาพวาดลูกท้อ ต้นสนและนกกระเรียน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ศิริมงคลทั้งนั้น
ส่วนห้องที่ 3 เป็นส่วนในของบ้านขงจื่อ คนข้างนอกห้ามเข้า
ด้านหลังของบ้านคือสวนดอกไม้ ซึ่งมีอีกชื่อเรียกว่า "สวนเถี่ยซาน" เถี่ยซานแปลว่าภูเขาเหล็ก ความจริงในสวนไม่มีภูเขาเหล็ก มีเพียงหินแร่เหล็กบางก้อนตั้งไว้ในทางตะวันตกของสวน สวนนี้มีภูเขาเทียม สระน้ำ ป่าไม้ สะพาน เรือนดอกไม้ น้ำพุ และเกาะเล็กในสระน้ำ นอกจากนี้ ยังมีเก๋ง และห้องอ่านหนังสือ เดินในสวนจะได้ชมวิวที่สวยงาม ดมกลิ่นดอกไม้ที่หอมสดชื่น ทำให้จิตใจสงบ
ส่วนสุสานตระกูลข่งหรือข่งหลิน(孔林) อยู่ทางภาคเหนือของเมืองชวีฝู่ มีสุสานของขงจื่อและลูกหลานตระกูลข่ง มีประวัติศาสตร์กว่า 3,000 ปีแล้ว เป็นสุสานของตระกูลที่ยาวนานที่สุด มีขนาดใหญ่ที่สุดและรักษาไว้อย่างสมบูรณ์ที่สุดในโลก มีสุสานกว่าแสนหลุม ป้ายสุสาน 4,003 ป้าย
ในเมืองชวีฝู่ ชื่อของโรงแรม ร้านอาหาร โรงเรียน และวิสาหกิจ เกือบทุกแห่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับขงจื่อหรือลัทธิขงจื่อ อาคารในตัวเมืองสร้างเป็นแบบโบราณ อาหารที่มีชื่อเสียงที่สุดเรียกว่า อาหารตระกูลข่ง เมื่อเดินในเมืองชวีฝู่ จะได้สัมผัสถึงขนบประเพณีและวิถีชีวิตดั้งเดิม เสมือนกลับสู่สมัยโบราณ