สถานีวิทยุซีอาร์ไอรายงานว่า เนื่องในโอกาสการประชุมสมัชชาผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนสมัยที่ 19 จะจัดขึ้นที่กรุงปักกิ่งในวันที่ 18 ตุลาคมนี้ เมื่อเร็วๆ นี้ ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุซีอาร์ไอได้สัมภาษณ์นายไพศาล พืชมงคล ที่ปรึกษาของรองนายกรัฐมนตรีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และอุปนายกสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน โดยนายไพศาล พืชมงคลได้ชื่นชมผลสำเร็จที่จีนได้รับหลังการประชุมสมัชชาผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนสมัยที่ 18 และแสดงความเชื่อมั่นว่า การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะมีความโดดเด่นและมีชีวิตชีวามากขึ้นอีกหลังการประชุมสมัชชาผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนสมัยที่ 19
เขากล่าวกับผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอว่า การประชุมสมัชชาผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนสมัยที่ 18 ต้องนับว่าเป็นการประชุมที่มีนัยสำคัญและเป็นจังหวะก้าวสำคัญในประวัติศาสตร์ เราได้เห็นความเปลี่ยนแปลงมากมายอันเป็นผลต่อเนื่องมาจากการประชุมสมัชชาผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนสมัยที่ 18 และการนำของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนภายใต้การนำของนายสี จิ้นผิง เลขาธิการพรรค มีความบริสุทธิ์ที่รับใช้ผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน ทุ่มเทให้กับการพัฒนาประเทศ ได้มุ่งทิศทางการพัฒนาไปสู่การยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนโดยเฉพาะในชนบทขึ้นมา
ขณะกล่าวถึงผลสำเร็จด้านการทูตของจีนในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา นายไพศาล พืชมงคลได้ชื่นชมแนวคิดทางการทูต 4 ประการที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเสนอ คือ จีนต้องการพัฒนาความสัมพันธ์กับประเทศรอบข้างบนพื้นฐานแห่งความเป็นมิตร มีความจริงใจต่อกัน เอื้อประโยชน์แก่กัน และยอมรับกัน เขากล่าวว่า
คนเราคบกันย่ำอยู่บนพื้นฐาน 4 ประการดังกล่าว ถ้าไม่มีพื้นฐาน 4 ประการนี้ ก็เป็นมิตรเทียม เพราะฉะนั้น การคบมิตร ก็ต้องเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของมิตร ไม่ใช่เพื่อตัวของตัวเอง ผลที่ผ่านมา ทำไมบางประเทศแม้มีกำลังอำนาจทั้งทางเศรษฐกิจและทหารที่เข้มแข็ง แต่ไม่สามารถประสบความสำเร็จ ก็เพราะว่า ขาดความจริงใจต่อกัน ขาดการคำนึงถึงผลประโยชน์ร่วมกัน จะเอาแต่ผลประโยชน์ตัวเอง ประธานาธิบดี จิ้นผิงได้นำเสนอถึง 4 ข้อ ซึ่งก็เป็นสัจธรรมของโลก ผมคิดว่า เป็นคุณูปการและอาจจะเป็นแบบแผนทางการเมืองระหว่างประเทศครั้งสำคัญ จะเป็นผลให้โลกนี้เข้าสู่ยุคแห่งความเอื้ออาทรกันโดยจิตใจที่แท้จริง ไม่ใช่การเสแสร้ง
นายไพศาล พืชมงคลสนับสนุนแนวคิดริเริ่มของจีนในการพัฒนา "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" เขากล่าวว่า
โลกเปลี่ยนแปลงไปมาก โดยเฉพาะการนำเสนอโครงการเส้นทางสายไหม เส้นทางสายไหมไม่เพียงแค่โครงการหรือแผนงานเท่านั้น มันเป็นยุทธศาสตร์ในการสร้างสันติภาพและการพัฒนาของโลก และเป็นยุทธศาสตร์ที่นำเสนอขึ้นในห้วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด ห้วงเวลาที่โลกกำลังเข้าสู่ยุคที่มีความเสี่ยงภัยต่อสงครามอย่างรุนแรง โครงการเส้นทางสายไหม เนื้อหาจริงๆ ก็คือว่า การทำให้ทั่วทั้งโลกได้มีผลประโยชน์ร่วมกันในการพัฒนา ได้ร่วมกันพัฒนา ได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน เส้นทางสายไหมไม่ใช่เส้นทางของการล่าอาณานิคม แต่เป็นเส้นทางของการสร้างสันติภาพ และการพัฒนาที่แท้จริง
นายไพศาล พืชมงคลแสดงความเห็นว่า องค์กรระหว่างประเทศหลายองค์กรที่จีนริเริ่มตั้งขึ้น เช่น ธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย (Asian Infrastructure Investment Bank) มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความยุติธรรมในระเบียบทางเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างประเทศให้มากขึ้น เขากล่าวว่า
วันนี้ก็ต้องถือว่าพลังทางเศรษฐกิจของจีนเติบใหญ่มาก เพราะฉะนั้น จีนซึ่งก็ได้พยายามยกระดับบทบาทของตนบนเวทีระหว่างประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ การเกิดขึ้นของกลุ่มประเทศบริคส์ การเกิดขึ้นขององค์กรต่างๆ ตามที่จีนริเริ่มนั้นล้วนแต่เป็นการดิ้นรนเพื่อที่จะรวมตัวกันในการที่จะแสวงหาความยุติธรรมในทุกด้าน เพราะฉะนั้น วันนี้ จีนได้เข้ามามีบทบาทในทุกองค์กร อันนี้เป็นเรื่องที่ต้องสนับสนุน และเป็นเรื่องที่จะต้องทำอย่างต่อเนื่อง และยกระดับให้มากขึ้นด้วยซ้ำไป
นายไพศาล พืชมงคลทิ้งท้ายว่า
การประชุมสมัชชาผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนสมัยที่ 19 ซึ่งผมเชื่อว่า จะเป็นการประชุมที่สืบทอดหลายสิ่งหลายอย่างที่ถูกต้องและสำเร็จจากการดำเนินงานของศูนย์กลางพรรคหลังการประชุมสมัชชาผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนสมัยที่ 18 หลายสิ่งหลายอย่างจะเดินหน้าต่อไป สำหรับการประชุมสมัชชาผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนสมัยที่ 19 ผมเชื่อว่าได้มีการเตรียมการมานานพอสมควร และผมคิดว่า ข้อเสนอและข้อมติต่างๆ น่าจะตกผลึกหมดแล้ว จึงปรากฏร่องรอยจากการนำเสนอหลายสิ่งหลายอย่างของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และผมเชื่อว่า หลังการประชุมสมัชชาผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนสมัยที่ 19 การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะมีความโดดเด่นและมีชีวิตชีวามากขึ้นอีก
(YIM/cai)