-ภาษาจีนเรียนยากจริงไหม?
ภาษาจีนถ้าฝรั่งเรียน - ยาก แต่คนไทย - ง่ายมากๆ หลักสูตรที่สอนอยู่ที่โรงเรียนตอนนี้คือหลักสูตร 24 ชั่วโมง จะมีค่าเท่ากับคนที่เรียนภาษาอังกฤษ 2 ปี ภาษาจีนจะยากแค่การออกเสียง แต่หลังจากที่คุณผ่านขั้นตอนนี้ไปได้ หรือที่เรียกว่าระบบพินอิน คุณจะสามารถพูดออกไปได้เยอะมากๆ
ภาษาจีนกับภาษาไทยเป็นภาษาเป็นภาษาพี่น้องกัน เพราะว่าภาษาไทย-ภาษาจีนไม่มีการเปลี่ยนรูปของ Tense ไม่มีเปลี่ยนกิริยา 3 ช่องเหมือนภาษาอังกฤษ แม้กระทั่งจำนวนของพยางค์ยังเท่ากันเลย เช่น "ผมอยากออกไปดื่มกาแฟแล้ว" ภาษาจีนว่า "หว่อ เย่า ชวู ชวี่ เฮอ คาเฟย เล่อะ" ทั้งหมดนี้มีพยางค์เท่ากันกับภาษาไทย ดังนั้นไม่มีภาษาไหนในโลกที่ใกล้เคียงกับภาษาไทยมากขนาดนี้
ทำไมจะไม่เรียนละ
-เคล็ดลับในการเรียนภาษาจีนให้เข้าใจง่าย
เคล็ดลับในการเรียนภาษาจีนก็คือ "ต้องใช้ให้บ่อย" ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามถ้าหากว่าคุณมีการใช้อยู่เป็นประจำทุกอย่างจะซึมเข้าไปโดยอัตโนมัติ และต้องมี Passion มีความอยาก ถ้าหากไม่มีความสนใจในสิ่งนั้นจริงๆ จะเก่งยากมากๆ
หลายคนบอกต้องไปเรียนประเทศจีน ผมว่าไม่จำเป็น ทุกวันนี้เรามีสื่อมากมายไม่ว่าจะเป็นเพลง YouTube ภาพยนตร์ซีรี่ย์ หรือการเป็นเพื่อนกัน ทุกวันนี้คนจีนในเมืองไทยเป็นล้าน ทำไมคุณต้องเอาตัวเองไปอยู่ประเทศจีน? ผมมองว่าไม่จำเป็น เด็กบางคนเรียนเอกภาษาจีนอยู่เมืองไทย 4 ปี เก่งกว่าคนที่ไปเรียนประเทศจีนเป็นไหนๆ เพราะเขามี Passion เขามีใจ ในขณะที่บางคนไม่ได้เรียนเอกภาษาจีนเลย เรียนสถาปัตย์ เรียนวิศวะ เรียนบัญชี แต่ใช้เวลาวันละ 1 ชั่วโมงในการเรียนภาษาจีนด้วยตัวเอง กลับเก่งมากกว่าพวกที่เรียนเอกภาษาจีนก็มี
ทุกสิ่งทุกอย่างแสดงให้เห็นว่าไม่ใช่พรสวรรค์แต่เป็นพรแสวง ภาษาจีนบอกว่า "สู เหนิง เซิง เฉี่ยว" หลายคนบอกว่าผมเก่งเพราะไม่เคยเรียนภาษาจีน ซึ่งผมว่านั่นคือ "พรแสวง"
"สู เหนิง เซิง เฉี่ยว" ยิ่งใช้บ่อยยิ่งเป็น ยิ่งเก่ง ไม่ใช่เรื่องของคุณสมบัติความสามารถพิเศษอะไรเลย เพราะฉะนั้นนี่คือเทคนิคอย่างเดียว
-ถ้าไม่มีพื้นฐานอะไรเลย เริ่มต้นยังไงดี?
ต้องเริ่มจาก "ความสนใจ" ก่อน ถ้าหากว่าคุณสนใจแล้วเดี๋ยวคุณก็จะรู้เอง ถ้าหากคุณชอบฟังเพลงให้เริ่มจากการฟังเพลงก่อน เพลงไหนรู้สึกว่าเพราะก็เริ่มฟังเพลงนั้น หนังเรื่องไหนที่รู้สึกว่าสนุกก็เริ่มดูหนังเรื่องนั้น ดูเป็นพากย์ไทยก็ได้ ถ้ารู้สึกว่าสนุกแล้วก็เปลี่ยนเป็นเสียงจีน เดี๋ยวนี้เราเปลี่ยนได้หมด พอดูเสียงจีนเสร็จ ตอนแรกเราอาจเปิดซับไทยคู่ไปด้วย ตอนหลังเราก็เปิดซับจีน และก็เปิดเสียงไทยฟังเทียบกันไปมา ทุกอย่างก็จะค่อยๆ มา หรือถ้าคุณอยากคบเพื่อนคนจีนมากขึ้นก็ยิ่งดี ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกัน เราได้รู้เรื่องจีน เขาได้รู้เรื่องไทย ตอนที่ผมไปอยู่เมืองจีนผมต้องจีบสาวจีนก่อน (อันนี้เป็น Passion ส่วนตัว) หรือแม้กระทั่งตอนที่ผมไปเดินตลาด ผมรู้จักพ่อค้าแม่ค้าทุกคน ภาษาจีนผมเก็บมาจากข้างถนนทั้งนั้น ผมไม่เคยนั่งห้องเรียน
ครั้งแรกที่ผมไปขอสอบ HSK อาจารย์ไม่ให้สอบ เพราะเขาบอกว่าผมพูดเก่งมาก เขาเอาข้อสอบ HSK ระดับ 6 มาให้ผมทำ ผมทำไม่ได้เลย แล้วเปลี่ยนมาให้ผมลองทดสอบระดับ 5 4 3 2 ไล่ลงมา ปรากฎว่าผมทำได้แค่ระดับ HSK 2 เพราะว่าผมไม่รู้หนังสือ ผมไม่เคยเรียนหนังสือ วันๆ ผมได้แต่พูดจากับพ่อค้าแม่ค้าที่อยู่ตามตลาด ผมเดินดุ่มเข้าไปถาม "เจ้อ ซื่อ เสิน เมอะ?" "เจ้อ เจี้ยว เสิน เมอะ?" "เจ้อ ซื่อ เสิน เมอะ จี? – นี่ไก่อะไร? แล้วก็เครื่องในไก่ข้างในส่วนนั้นส่วนนี้เรียกว่าอะไร" ผมเป็นคนชอบพูดชอบเจรจา ลักษณะแบบนี้ทำให้ได้รู้ศัพท์ใหม่ๆ เข้าไปเยอะแยะในแต่ละวัน
ทุกสถานที่ของผมคือห้องเรียน ทุกสถานที่คือที่ที่ผมสามารถเรียนรู้ได้
-ถ้าเรียนภาษาจีน เรียนไปไม่ได้ใช้ จำเป็นจะต้องเรียนไหม?
เรียนแล้วไม่ได้ใช้อย่าเรียน แต่การใช้ของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน แค่ใช้ดูหนังก็ถือว่าใช้ แค่ใช้ฟังเพลงก็ถือว่าใช้ อย่าคิดว่าต้องไปใช้หาเงินหาทอง ไม่จำเป็นเสมอไป คนแก่สูงอายุบางคนมาเรียนกับผม ถามว่าเรียนทำไม? เพราะไม่อยากเป็นอัลไซเมอร์ นั่นก็เรียกว่าใช้สมอง
เพราะฉะนั้นถ้าหากว่าคุณเรียนแล้วคุณได้เอาไปใช้อะไรสักอย่างโดยที่เป็นความชอบเป็นความสนใจส่วนตัวของคุณ นั่นก็คือการได้ใช้ประโยชน์จากสิ่งที่เรียนรู้ไปแล้ว