การลงนามในบันทึกช่วยจำประธานาธิบดีเรื่อง ประกาศจะจัดเก็บภาษีการนำเข้าสินค้าจากจีน และจำกัดการลงทุนควบรวมกิจการในสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีทรัมป์ เมื่อวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา ในเรื่องนี้ นายหลิน เจียหยู่ ผู้รับผิดชอบโครงการพลังงานนิเวศวิทยาเป่าลวี่ไท่หวา ซึ่งเป็นวิสาหกิจร่วมทุนทั้งจีนกับออสเตรียเห็นว่า การกระทำของสหรัฐฯ ดังกล่าว อาจผลักดันให้เกิดความร่วมมือระหว่างวิสาหกิจจีนกับยุโรปมากยิ่งขึ้น แม้ว่าสหรัฐจะยื่นเงื่อนไขที่จะไม่เก็บภาษีศุลกากรจากทางยุโรป แต่วิสาหกิจยุโรปคงจะไม่ยอมทิ้งตลาดจีนเพื่อมุ่งเป้าไปสู่ตลาดสหรัฐฯ

นายหลิน เห็นว่า การกีดกันทางการค้าของสหรัฐ ไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อวิสาหกิจยุโรปในจีนในระยะเวลาอันสั้น เพราะว่าวิสาหกิจเหล่านี้ไม่ได้ดำเนินการค้าขายหรือร่วมมือโดยตรงกับวิสาหกิจสหรัฐฯ ตรงกันข้าม ถ้าข้อพิพาททางการค้าดำเนินไปเป็นเวลายาวนาน จะได้ผลในการผลักดันความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างจีนกับวิสาหกิจของประเทศและเขตปกครองอื่นๆ เมื่อเทียบกับยอดมูลค่าการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ข้อพิพาทการค้าที่เกี่ยวข้องครั้งนี้ถือว่าไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่ ผลกระทบจากข้อพิพาทดังกล่าวมีผลต่อวิสาหกิจส่วนมากในด้านความรู้สึกเท่านั้น ข้อพิพาททางการค้าจะทำให้โครงการลงทุนในต่างประเทศในอนาคตมีแนวโน้มไม่เปลี่ยนแปลง

(Bo/zheng)