พื้นผิวทางด่วนที่โดนแสงแดด สามารถผลิตพลังไฟฟ้า แล้วนำไปเติมแบตเตอรี่ให้รถพลังงานไฟฟ้าที่วิ่งบนพื้นผิวจราจร แม้จะเป็นในฤดูหนาวที่มีหิมะตกก็ไม่กังวลเพราะหิมะที่ปกคลุมพื้นจราจรจะละลายได้เอง และนี่คือทางด่วนสุดล้ำของประเทศจีน นั่นก็คือ ทางด่วนแผ่นโฟโตวอลเทอิก (Photovoltaic Highway) ที่เมืองจี่หนัน เมืองเอกของมณฑลซานตง
ถือเป็นเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่สุดในรวมการจราจรกับอุตสาหกรรมพลังงานใหม่ผสมผสานเข้าด้วยกันอย่างลึกซึ้ง ทางหลวงเส้นนี้ยังเป็นทางด่วนที่ใช้งานวิจัยการปูพื้นทางด้วยแผ่นโซลาเซลล์สายแรกของโลกอีกด้วย
ความโดดเด่นของทางด่วนสายนี้คือ พื้นผิวถนนประกอบด้วยแผ่นโซลาเซลล์ขนาดใหญ่ ที่มีความคล้าย"แผ่นกระจก" เมื่อเหยียบไปแล้วก็จะรู้สึกถึงแรงเสียดทานอย่างชัดเจน พื้นถนนไม่เพียงแต่รองรับรถยนต์ส่วนบุคคลที่ใช้พลังงานไฟ้ฟ้าทุกยี่ห้อ ยังสามารถรับน้ำหนักรถบรรทุกขนาดกลางได้อย่างสบาย สำหรับรถยนต์แล้ว พื้นผิวแผ่นโซลาเซลล์กับพื้นทางยางมะตอย จะไม่รู้สึกแตกต่างกันมากนัก ปัจจุบันสายจ่ายไฟฟ้าของทางด่วนเส้นนี้ได้เชื่อมต่อเครือข่ายจ่ายไฟฟ้าของตัวเมืองแล้ว เสาชาร์จไฟริม 2 ข้างทางพร้อมเติมแบตให้รถพลังงานไฟฟ้าทุกคัน
ศาสตรจารย์จาง หงเชา จากสถาบันวิศวกรรมศาสตร์คมนาคมและการขนส่ง มหาวิทยาลัย Tongji องค์การที่นำเสนอเทคโนโลยีแกนกลางเปลี่ยนแสงแดดเป็นไฟฟ้า กล่าวว่า "แผ่นโซลาเซลล์บนพื้นทางจะสะสมพลังงานแสงอาทิตย์ แล้วแปรรูปเป็นพลังงานไฟฟ้า" โดยเทคโนโลยีนี้มีชื่อเฉพาะว่า "เทคโนโลยีพื้นทางโฟโตวอลเทอิก" ผลิตหน่วยกำเนิดไฟฟ้าด้วยแสงแดด แบกรับน้ำหนักที่มาก แล้วมาประกอบปูพื้นถนน ทำให้ได้ความแข็งแรงไม่ต่างกับ "ปูนซิเมนต์" โดยดัชนีทางเทคนิคกับดัชนีความปลอดภัยการเดินรถ ถือว่าดีกว่าทางหลวงทั่วไปที่ใช้ยางมะตอยกับปูนซีเมนต์
หน่วยกำเนิดไฟฟ้าด้วยแสงแดดคือ แผ่นโซลาเซลล์ที่มีการทำงานเหมือนกับแผ่นซิลิคอน แต่ต้องผ่านกรรมวิธีพิเศษเพื่อต้านทานแรงกดและกันลื่นได้ เมื่อมีวัสดุก่อสร้างถนนที่ยอดเยี่ยมแล้ว ทางหลวงโฟโตวอลเทอิกก็กลายเป็น "Power Bank" ของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า
แหล่งข่าวแจ้งว่า ปัจจุบัน เทคโนโลยีเติมไฟฟ้าไร้สายค่อนข้างสมบูรณ์แล้ว โดยในปี 2013 เลนรถบัสระบบเติมแบตเตอรี่ไร้สาย เจ้าแรกสร้างเสร็จที่เกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม บริษัท Qualcomm ของสหรัฐฯ ประกาศความสำเร็จในการเติมไฟให้กับรถยนต์พลังไฟฟ้าที่วิ่งในความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ศาสตรจารย์จาง หงเชากล่าวว่า ในเมื่อเชื่อมโยงกับรถพลังงานไฟฟ้าที่ทันสมัยแล้ว พื้นทางแผ่นโซลาเซลล์ก็สามารถเติมแบตให้กับรถในเวลาเคลื่อนที่ ต่อไปในอนาคต ทางด่วนโฟโตวอลเทอิกที่ครอบคลุมไปทั่วประเทศ ก็จะกลายเป็น "Power Bank พลังแสงอาทิตย์" อันกว้างใหญ่ โดยถือว่าเป็นหลอดเลือดของประเทศ เพราะพลังงานไฟฟ้าเกิดขึ้นและหมุนเวียนตลอด เพื่อขับเคลื่อนความก้าวหน้าของสังคมจีน
นอกจากทำให้คนขับหายห่วงเรื่องพลังงานแล้ว ทางด่วนแผ่นโซซาเซลล์ยังได้ติดตั้งระบบตรวจสอบพื้นถนนมีน้ำแข็งจับในวันที่มีหิมะตกหนัก รับทราบถึงระดับความลื่นบนพื้นทาง และเมื่อมีความจำเป็นก็จะเปิดระบบสร้างความร้อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเพื่อกำจัดหิมะและน้ำแข็งบนพื้นถนน รับประกันความปลอดภัยในการเดินรถอย่างเต็มที่
หลายปีมานี้ รถยนต์พลังงานทางเลือกถูกพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว จนหลายคนมองว่ารถยนต์ธรรมดาจะถูกแทนที่ด้วยรถพลังงานทางเลือก แต่ปัจจุบัน ปัญญาการเดินรถอย่างต่อเนื่องจากจำนวนและความถี่ของเสาที่ชาร์จไฟยังคงมีจำกัด ทำให้รถพลังงานไฟฟ้ายังไม่สามารถตอบสนองการเดินทางไกลได้ แต่ถ้าทางด่วนโฟโตวอลเทอิกสามารถแก้ปัญหาการเติมแบตให้กับรถได้ ก็ย่อมขจัดอุปสรรคในเรื่องของระยะทางการเดินรถของรถยนต์พลังงานทางเลือกได้ "ทางหลวงโฟโตวอลเทอิก+รถยนต์พลังงานไฟฟ้า" ก็ย่อมจะเป็นหนทางการพัฒนาที่มีอนาคต
ปัจจุบัน ตัวอย่างการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีโฟโตวอลเทอิกกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้านั้น มีให้เห็นเช่นเมื่อปี 2016 กลุ่มบริษัท Hanergy Holding Group ซึ่งเป็นวิสาหกิจระดับโลกด้านการพัฒนาพลังงานสะอาด(พลังงานแสงอาทิตย์)ของจีน เปิดตัวรถพลังงานแสงอาทิตย์ที่จะใช้แต่พลังงานแสงอาทิตย์เพียงอย่างเดียว 4 ชนิด ซึ่งมีความเป็นได้ในการขยายระยะทางการเดินรถอย่างต่อเนื่องในกลางวันที่มีแสงอาทิตย์ เพราะแผ่นโซลาเซลล์ประสิทธิภาพสูงที่ติดบนหลังคารถ สามารถเปลี่ยนแสงแดดให้เป็นพลังงานไฟฟ้าให้รถขับเคลื่อนตลอด ทำให้การเดินทางของรถแบบนี้ไม่จำเป็นต้องกลับเข้าที่ชาร์ตไฟ
พร้อมๆ ไปกับความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมโฟโตวอลเทอิก รถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ในปัจจุบันหลายยี่ห้อของจีนทยอยกันติดแผ่นโซลาเซลล์รุ่นใหม่บนหลังคารถ ทำให้การใช้เทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์นั้น กลายเป็นความนิยมใหม่ของรถไฟฟ้าสมัยใหม่
เป็นที่ทราบกันดีว่า การขับเคลื่อนรถยนต์พลังงานเลือกนั้น เกิดจากแบตเตอรี่สะสมไฟฟ้า ต่อไปในอนาคต เมื่อเทคโนโลยี "โฟโตวอลเทอิก+แบตเตอรี่สะสมไฟฟ้า" ของรถยนต์พลังงานทางเลือกมีความสมบูรณ์ รถที่ติดตั้งระบบพลังงานนี้จะกลายเป็น "รถที่สร้างพลังงานให้กับตัวเองได้เมื่อถูกแดด" ทำให้รถพลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่มีศักยภาพในการแข่งขันสูงยิ่งขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับรถยนต์พลังงานเชื้อเพลิงในปัจจุบัน