อากาศที่กำลังอุ่นขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่เริ่มเดินทางออกจากบ้านไปท่องเที่ยวยังทะเล ภูเขา หรือไม่ก็ต่างประเทศ ถือเป็นการพักผ่อนทั้งร่างกายและจิตใจจากการทำงานและการใช้ชีวิตในเมืองใหญ่
รูปแบบการท่องเที่ยวในปัจจุบัน นับวันยิ่งมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น วันนี้เราจะมาเล่าถึงสไตล์การท่องเที่ยวรูปแบบหนึ่งที่กำลังเป็นที่นิยมในหมู่ชาวจีน นั่นก็คือการ "ไฮกิ้ง"
การท่องเที่ยวแบบไฮกิ้ง คือ การเดินระยะไกล ไม่ว่าจะเป็นการเดินเขา การเดินป่า หรือการตั้งแคมป์พักแรม คำว่า "ไฮกิ้ง" เกิดขึ้นราวปี 1960 โดยเริ่มใช้เฉพาะการเดินทางระยะไกลในประเทศเนปาล ต่อจากนั้นมา การท่องเที่ยวลักษณะนี้ก็ค่อย ๆ แพร่หลายไปยังทั่วโลก เสน่ห์ของการไฮกิ้งอยู่ที่ ความแตกต่างจากการไปท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ซึ่งเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว ในขณะที่เส้นทางการท่องเที่ยวแบบไฮกิ้ง จะมีนักท่องเที่ยวค่อนข้างน้อย ต้องใช้เวลาเดินทางหลายชั่วโมงหรือหลายวัน กว่าจะเดินทางไปถึงจุดหมายปลายทางได้ แม้ร่างกายจะเหน็ดเหนื่อยเต็มที่ แต่ก็คุ้มค่าเมื่อได้เห็นภาพของธรรมชาติที่หาชมได้ค่อนข้างหายาก เช่น หุบเขาท่ามกลางป่าลึก ภูเขาหิมะ ทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์บนยอดเขา เป็นต้น การฝ่าฟันความยากลำบาก และอุปสรรคต่าง ๆ ระหว่างเดินทาง ถือเป็นวิธีหนึ่งที่ท้าทายขีดความสามารถทั้งทางร่างกายและจิตใจของนักผจนภัย ขณะเดียวกันยังเป็นการสร้างความผูกพันและความใกล้ชิดมากขึ้นกับคนที่ร่วมเดินทางไปด้วย
ประเทศจีนมีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลและมีลักษณะภูมิประเทศที่หลากหลาย ดังนั้น แต่ละมณฑลจะมีเส้นทางไฮคิงที่น่าสนใจเป็นของตัวเอง วันนี้เราจะมาแนะนำเส้นทางไฮกิ้งสุดคลาสสิก 6 เส้นทางของจีน
เส้นทางไปยังอำเภอโม่ทัว เขตปกครองตนเองทิเบต
อำเภอโม่ทัว ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเขตทิเบต เป็นอำเภอสังกัดเมืองหลินจือ ที่ขึ้นชื่อเรื่องเทศกาลดอกท้อในเขตทิเบต คำว่า "โม่ทัว" เป็นภาษาชนเผ่าจ้าง มีความหมายว่า ดอกไม้ เนื่องด้วยอำเภอแห่งนี้ อยู่ในหุบเขาลึกของแม่น้ำอย่าหลู่จ้างปู้เจียง และมีป่าไม้ดึกดำบรรพ์เปรียบเสมือนกำแพงธรรมชาติกั้นไว้ ดังนั้น อำเภอโม่ทัว จึงยังคงรักษาความเป็นธรรมชาติมาได้จนถึงทุกวันนี้ เนื่องจากแทบไม่ได้รับการรบกวนจากมนุษย์
การเดินทางไปยังอำเภอโม่ทัวขึ้นชื่อเรื่องความยากลำบาก ต้องผ่านป่าไม้ดึกดำบรรพ์ ภูเขาหิมะ ทุ่งหญ้า หุบเขา สะพานโซ่เหล็ก จึงมีคำกล่าวที่ว่า ไฮกิ้งในเส้นทางอำเภอโม่ทัว ร่างกายอย่างกับตกนรก แต่ดวงตากำลังอยู่บนสรวงสวรรค์ นอกจากนี้ มีคนบอกกันว่า อย่าไปพูดเรื่องความยากลำบากในการเดินทางกับคนที่เคยไปยังอำเภอโม่ทัว เพราะบนโลกนี้คงไม่มีเส้นทางไหนทรหดกว่าเส้นทางไปยังอำเภอโม่ทัวอีกแล้ว แต่ด้วยทิวทัศน์ทางธรรมชาติอันชวนให้หลงรักของที่นี่ ประกอบกับความลึกลับของพุทธศาสนานิกายทิเบต และเสน่ห์ที่สามารถไปค้นหาความหมายของชีวิตด้วยตนเอง ทุก ๆ ปีจึงมีคนจำนวนมากฝ่าฟันความยากลำบากเพื่อไปยังอำเภอโม่ทัว
เส้นทางอำเภอเต้าเฉิง-เขตอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมย่าติง มณฑลซื่อชวน (เสฉวน)
เส้นทางไฮกิ้งอำเภอเต้าเฉิง-เขตอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมย่าติง ตั้งอยู่ภายในเขตปกครองตนเองชนเผ่าจ้างกันจือ ในเขตมณฑลซื่อชวน เนื่องจากสภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์และดินฟ้าอากาศที่มีลักษณะพิเศษของตนเองทำให้พื้นที่แห่งนี้ยังคงรักษาระบบนิเวศที่สมบูรณ์ที่สุดของประเทศจีน เป็นที่เรียกกันว่า "ดินแดนบริสุทธิ์แห่งสุดท้ายบนดาวโลกสีน้ำเงินของมนุษย์" การเดินทางไปยังพื้นที่แห่งนี้ สามารถชมทิวทัศน์ทั้งภูเขาหิมะ ทะเลสาบน้ำแข็ง ก้อนหินแปลกประหลาด ทุ่งหญ้าบนที่ราบสูง สัมผัสวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของชนเผ่าจ้าง และศาสนาพุทธ ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการเดินเขาไปยังอำเภอเต้าเฉิง-เขตอานุรักษ์สิ่งแวดล้อมย่าติงอยู่ในช่วงเดือนเมษายน ถึง พฤษภาคม นับเป็นช่วงที่มีดอกไม้นานาชนิด พากันบานสะพรั่ง และในช่วงเดือนกันยายน ถึง ตุลาคมจะเป็นฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้ได้จะเปลี่ยนสีเป็นสีเหลือง สีแดง ตัดกับท้องฟ้าสีครามและภูเขาหิมะสีขาว มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง
ไฮไลท์ของเส้นทางนี้อยู่ที่ภูเขาหิมะสามภูเขา ซึ่งเป็นภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อท้องถิ่นของชาวทิเบต ได้แก่ ภูเขาหิมะเซียนหน่ายรื่อ สูง 6,032 เมตร ตามความเชื่อของชาวทิเบต ภูเขาแห่งนี้เป็นอวตารของเจ้าแม่กวนอิม ภูเขาลูกที่สอง คือ ภูเขาหิมะยังไม่หย่ง สูง 5,958 เมตร เป็นอวตารของพระมัญชุศรีโพธิสัตว์ และภูเขาลูกที่สาม คือ ภูเขาหิมะเซี่ยนั่วตัวจี๋ สูง 5,958 เมตร เป็นอวตารของพระวัชรปาณีโพธิสัตว์ ชาวบ้านในเขตนี้ต่างเชื่อกันว่า หากสามารถนมัสการภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้ครบทั้งสามลูกก็จะได้สมปรารถนาในชีวิต
เส้นทางทะเลสาบหลูกูหู มณฑลหยุนหนาน
ทะเลสาบหลูกูหู เป็นทะเลสาบน้ำจืดตั้งอยู่ระหว่าเขตพรมแดนมณฑลซื่อชวนและมณฑลหยุนหนาน ขึ้นชื่อเรื่องน้ำใสสะอาด ผิวน้ำสงบนิ่ง มีสัตว์หลากหลายชนิด อีกทั้งคนไม่ค่อยแน่นเหมือนทะเลสาบเอ่อไห่ เมืองต้าหลี่ในมณฑลหยุนหนาน เนื่องจากการเดินทางไปทะเลสาบแห่งนี้ยากลำบากกว่า ทุก ๆ ปี ระหว่างเดือนมิถุนายน ถึง ตุลาคม ซึ่งเป็นหน้าฝน ช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึง พฤษภาคม ซึ่งเป็นหน้าแล้ง ส่วนเดือนมกราคมและเดือนกุมภาพันธ์จะพบมีหิมะตกบ้าง
เนื่องจากทะเลสาบเปรียบเสมือนเครื่องปรับอากาศจากธรรมชาติ ทำให้อากาศที่นี่จะอบอุ่นในหน้าหนาวและเย็นสบายในหน้าร้อน แดดจัดฟ้าใสเกือบตลอดทั้งปี ดังนั้น ที่นี่จึงเป็นสถานที่เหมาะมากสำหรับไฮกิ้ง เพื่อที่จะได้สัมผัส "ความสงบเงียบ" ของทะเลสาบแห่งนี้ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังเป็นการทำจิตใจของผู้ที่มาเยือนให้สงบไปด้วย
(Tim/Zi)