มีหญิงสาวคนหนึ่ง เธอไม่ยอมเสียสตางค์ไปกับการซื้อรองเท้าส้นสูงสักคู่ แต่ยอมที่จะเสียเงินจำนวนถึง 4 แสนหยวน หรือประมาณ 2 ล้านบาท ไปกับการซื้อดอกไม้ชนิดต่าง ๆ และใช้ดอกไม้เหล่านี้ ตกแต่งสวน ตกแต่งห้อง หรือแม้กระทั่งตกแต่งลานบนหลังคาเสียด้วยซ้ำ เธอบอกว่า "ฉันยอมที่จะเสียทุกอย่าง แต่ฉันขาดดอกไม้ไม่ได้"
วันนี้ขอนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับสาวจีนคนหนึ่ง เธอมีชื่อเล่นว่า "ขนตา" รวมถึงโรงแรมและบ้านพักเยาวชนของเธอให้กับเพื่อน ๆ ทุกคนค่ะ
"ขนตา" เป็นสาวจีนอายุ 30 กว่า ๆ สาเหตุที่เธอมีชื่อเล่นว่า "ขนตา" ก็เนื่องจากว่า ขนตาของเธอนั้น ทั้งยาว หนา และงอนงามมาตั้งแต่เด็ก และถูกเพื่อน ๆ เรียกมากว่า 30 ปีแล้ว แม้เธอจะมีอายุเพียง 30 กว่าปี แต่ เธอกลับเป็นเจ้าของร้านกาแฟ 2 แห่ง บ้านพักเยาวชนนานาชาติ (YHA) 3 แห่ง รวมไปถึงเกสต์เฮาส์อีก 1 แห่ง ในกรุงปักกิ่ง นอกจากนี้เธอยังมีบ้านของตัวเองชานกรุงปักกิ่งอีกด้วย ไม่ว่าร้านกาแฟ หรือโรงแรม YHA หรือแม้กระทั่งเกสต์เฮาส์ ล้วนมีจุดเหมือนอย่างหนึ่ง คือ แต่ละที่จะถูกตกแต่งและรายล้อมไปด้วยดอกไม้ และต้นไม้นานาชนิด จนพูดได้ว่า ดอกไม้เหล่านี้มีบทบาทเหมือนกับเป็นวัสดุก่อสร้างเลยก็ว่าได้ ยิ่งไปกว่านั้น ดอกไม้เหล่านี้ต่างเข้ากับสภาพแวดล้อมได้อย่างกลมกลืน ดั่งคำพูดของเธอที่ว่า "ฉันยอมที่จะเสียทุกอย่าง แต่ฉันขาดดอกไม้ไม่ได้" คนส่วนใหญ่เมื่อฟังแล้วอาจรู้สึกว่า ไม่ใช่ความจริง หรือเกินจริงไป เพราะคนส่วนใหญ่ต่างชอบดอกไม้ ต้นไม้ แต่ไม่ค่อยจะมีคนติดหรือชอบในระดับที่ขาดไม่ได้ แต่หากคุณทราบว่า ขนตา เป็นเด็กที่เติบโตในเขตปศุสัตว์ของมณฑลชิงไห่ ชีวิตวัยเด็กของเธอ เต็มไปด้วยทุ่งหญ้าสีเขียว ท้องฟ้าสีคราม ทะเลแห่งดอกไม้นานาชนิด ตลอด 4 ฤดูกาลของปี ขนตาจึงมีความสุขอยู่กับเขตทุ่งหญ้า ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเธอ ดังนั้น คุณย่อมเข้าใจว่า ความรักของขนตาที่มีต่อดอกไม้ต้นหญ้านั้น เป็นความรู้สึกผูกพันธ์ที่มีรากลึกอยู่ในใจของเธอ
เมื่อขนตาเรียนจบจากมหาวิทยาลัยแล้ว เธอไม่ได้คิดว่า จะต้องรีบหางานแบบ 9:00 - 17:00น. เหมือนกับคนส่วนใหญ่ แต่กลับใช้เวลาช่วงหนึ่ง เหมือนกับแนวคิดของหนุ่มสาวตะวันตกที่เรียกกันว่า "Gap Year" หรือ "หนึ่งปีสำหรับเว้นว่าง" ที่มักใช้ออกไปเดินทางท่องโลก และทำความเข้าใจกับตัวเองระหว่างการเดินทางว่า อยากทำอะไรกับชีวิตกันแน่ ซึ่งตัวขนตาเอง เมื่อไปเที่ยวเมืองต่าง ๆ เธอได้เข้าพักเกสต์เฮาส์ หรือบ้านพักเยาวชนนานาชาติหลาย ๆ แห่ง จนในที่สุด เธอเกิดความคิดขึ้นมาว่า อยากเปิดบ้านพักYHAของเธอเอง
ช่วงเวลาที่เธอกำลังมีความคิดนี้ ขนตามีเงินไม่มากเท่าไหร่ แต่เธอรู้ดีว่า การนั่งทำงานอยู่ออฟฟิศทั้งวันนั้น ไม่ใช่สิ่งที่เธออยากทำจริง เธอจึงอยากใช้ความพยายามสักครั้งหนึ่ง เพื่อความฝันของตัวเอง การบุกเบิกธุรกิจไม่ใช่เรื่องง่าย ขั้นเริ่มต้นนั้นเต็มไปด้วยอุปสรรคมากมาย ลำพังเพียงแค่หาสถานที่เหมาะกับการเปิดบ้านพักเยาวชนนานาชาติ หรือ YHA ก็ใช้เวลาไปถึง 9 เดือน เพราะเธอต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายด้าน เช่น ทำเลที่ตั้ง การคมนาคม สภาพแวดล้อม ความกว้างของสถานที่ ตลอดจนปัจจัยด้านราคา ดังนั้น ขนตาและแฟนของเธอจึงหาสถานที่ตามแผนที่กรุงปักกิ่ง เดินเที่ยวซอยเก่าของกรุงปักกิ่ง หรือ "หูถง" เกือบครบทุกแห่ง จนในที่สุด พวกเขาก็ได้สถานที่ที่ถูกใจ แต่อุปสรรคอีกอย่างหนึ่งก็คือ เจ้าของบ้านไม่ได้อยู่ในปักกิ่ง ไปเที่ยวต่างประเทศ เธอจึงต้องคอยถึง 3 เดือน กว่าจะเซ็นสัญญาเช่าได้เรียบร้อย
หลังจากได้สถานที่ ขั้นต่อไป คือ การก่อสร้าง ปรับปรุงและตกแต่งห้อง เพื่อให้กลายเป็นบ้านพัก YHA พร้อมที่จะให้บริการนักท่องเที่ยวได้ แต่ปัญหาใหม่ก็ถาโถมเข้ามา เนื่องจากขาดแคลนเงินลงทุน เพราะขณะนั้น ขนตามีเงินไม่มากเท่าไหร่ เงินที่เธอมีอยู่ใช้ไปกับการจ่ายค่าเช่าเกือบทั้งหมด และหากเป็นคนอื่น ๆ คงไม่กล้าทำแบบนี้ เพราะทุกสิ่งล้วนอาศัยความมั่นใจ การใช้เงินทั้งหมดที่มีไปทำธุรกิจ หากผิดพลาดก็จะล้มเหลวในที่สุด ความสำเร็จแบบนี้ ใช่ว่าจะเกิดขึ้นกับทุกคน แต่ขนตาไม่ได้คิดอะไรมาก แค่อยากเปิดบ้านพัก YHA ที่มีสไตล์ของเธอเองเท่านั้น ดังนั้น เธอจึงระดมเงินทุกวิถีทาง ไปเจรจากับเพื่อนฝูง ญาติสนิท อธิบายแผนการและความฝันของเธอให้พวกเขาเข้าใจ ในที่สุดก็มีคนสนับสนุนและยอมให้เธอยืมเงิน เธอค่อย ๆ สะสมเงินทุนจำนวนประมาณ 5 แสนหยวน ทำเป็นเงินทุนก้อนแรกสำหรับการเปิดบ้านพัก YHA
ขนตาและแฟนของเธอตั้งชื่อบ้านพัก YHA แห่งนี้ว่า "Peking Youth Hostel" เคยมีคนถามถึง ทำไมต้องใช้คำว่า "Peking" ไม่ใช้คำว่า "Beijing" ขนตาให้สาเหตุง่าย ๆ ว่า ในสายตาของเธอเอง กรุงปักกิ่งในยุคปัจจุบัน ไม่ค่อยมีความรู้สึกของกรุงปักกิ่งสมัยเก่าเท่าไหร่แล้ว คำว่า "Peking" ตรงกับคำจีนว่า "เป่ยผิง" ซึ่งเป็นชื่อเก่าของ "เป่ยจิง" หรือกรุงปักกิ่ง ซึ่งสามารถสร้างความรู้สึกย้อนยุคให้กับผู้คนได้ และสำหรับชาวต่างชาติอันที่จริงแล้วคุ้นกับคำ "Peking" มากกว่า "Beijing" นั่นเอง
ที่ตั้งของ "Peking Youth Hostel" อยู่บริเวณเขตอนุรักษ์วัฒนธรรมหูถง (ย่านเมืองเก่ากรุงปักกิ่ง) พื้นที่สวยที่สุดของกรุงปักกิ่ง ซึ่งก็คือ ซอยหนานหลัวกู่เซี่ยง บ้านพักแห่งนี้นั้นอยู่ทางทิศใต้ของซอยนี้ นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นสวนจิ่งซานที่อยู่ทางใต้ของซอย ผ่านสวนจิ่งซานนี้ไปแล้วก็จะถึงพระราชวังต้องห้าม หรือพิพิธภัณฑ์กู้กง ต่อจากพระราชวังต้องห้ามแล้ว ต่อไปเข้าถึงจตุรัสเทียนอันเหมิน ซึ่งถือว่าเป็นใจกลางของประเทศจีนนั่นเอง ต่อจากจตุรัสเทียนอันเหมิน ก็จะถึงเฉียนเหมิน ย่านการค้าสมัยเก่าของกรุงปักกิ่ง และหากไปทางทิศทางอื่น ๆ ก็จะสามารถไปถึงทะเลสาบโฮ่วไห่ หอระฆัง หรือภาษาจีนเรียกกันว่า จงโหลว หอกลอง หรือภาษาจีนเรียกกันว่า กู่โหลว เป็นต้น จุดหมายตา (landmark) เหล่านี้ ล้วนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของกรุงปักกิ่ง
กลับมาที่การเตรียมความพร้อมบ้านพัก YHA ของขนตา ลำพังแค่การขนขยะต่าง ๆ ออกจากตัวอาคาร ก็ต้องใช้รถบรรทุกขนาดกลาง ขนออกไปถึง 7 รอบ ยังไม่รวมถึงการซื้อวัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ และของใช้ในชีวิตประจำวัน ในที่สุดก็มาถึงขั้นตอนที่ขนตาตื่นเต้นมากที่สุด นั่นก็คือ การเลือกซื้อดอกไม้ชนิดต่าง ๆ มาตกแต่งห้อง ขนตายังจำได้อย่างชัดเจนว่า คืนก่อนที่จะไปตลาดดอกไม้ เธอตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ พึมพำกับตัวเองอย่างไม่รู้จบ เกี่ยวกับชื่อของดอกไม้ทั้งหมดที่เธอรู้จัก ไม่ว่าจะเป็น กล้วยไม้สกุลหวาย คาลล่าลิลลี่ (calla lily) กล้วยไม้ฟาแลนนอปซิส ดอกไฮยาซินธ์ (Hyacinth) ต้นส้มกัมควอท (Kumquat) ข้าหลวงหลังลาย ดอกว่านสี่ทิศ ไปจนถึงดอกซิมบิเดียม ในใจของเธอนั้น อยากซื้อดอกไม้ทุกอย่างที่ชอบมาตกแต่งบ้าน YHA แต่ต้นทุนหลังจากซื้อเครื่องใช้ เฟอร์นิเจอร์แล้ว เหลืออยู่ไม่ค่อยมาก ดังนั้นเธอจึงไปเลือกซื้อดอกไม้แค่บางชนิด
(Tim/Zi)