สวู่ เป่ยหง ชำนาญทั้งในการวาดภาพสีน้ำมันและหมึกจีน อย่างไรก็ตาม งานของเข้าส่วนใหญ่เป็นแบบศิลปะดั้งเดิมของจีน เขาเป็นผู้ผลักดันในการสร้างรูปแบบศิลปะแห่งชาติ ซึ่งผสมผสานเทคนิกฝีพู่กันและหมึกจีน โดยใช้รูปแบบมิติและการจัดวางแบบตะวันตกเข้าไป เช่นรูปแบบเส้นหนาทึบที่แน่วแน่มั่นคงของจีนในการบรรยายรูปแบบศิลปะสมัยใหม่ ในฐานะที่เขาเป็นอาจารย์สอนศิลปะ เขาพยายามให้ลูกศิษย์ของเขาสร้างแนวคิดทางศิลปะที่ขับเน้นออกมาจากประสบการณ์ชีวิตโดยตรงของศิลปินเอง
"ศิลปินทั้งหมดในยุคสมัยใหม่ทุกคนจะต้องสร้างรูปแบบผลงานศิลปะแบบจีนขึ้นในโลกศิลปะให้ได้" สวู่ เป่ยหง เคยพูดไว้ดังนี้
ซึ่งแนวคิดนี้ได้ถูกส่งต่อไปยังวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยศิลปะทั่วประเทศจีนทั้งในลักษณะนโยบายจากภาครัฐภายใต้รัฐบาลคอมมิวนิสต์และอิทธิพลจากผลงานของ สวู่ เป่ยหง เอง
และไม่เฉพาะในประเทศจีนเท่านั้น เมื่อครั้งที่เขาเดินทางไปแสดงที่เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ผลงานของเขาได้ก่อให้เกิดกระแสศิลปะใหม่ขึ้นในประเทศนั้นด้วย โดยเฉพาะที่สิงคโปร์ ศิลปินที่กำลังมาแรงในขณะนั้น อาทิ เฉิน เวิ่น สือ (Chen Wen Hsi) ลี มาน ฟง (Lee Man Fong) ที่นับถือเขาอย่างยิ่ง
เขาเคยพูดกับ เหลียว จิ่งเวิ่น ภรรยาของเขาว่า "ผลงานของเขาและงานที่เขาสะสมมาทั้งหมดนั้น ควรจะมีประโยชน์ต่อประชาชนจีน หลังจากที่เขาเสียชีวิตด้วยโรคเส้นเลือดอุดตัน ในปี 1953 สวู่ เป่ยหง ได้บริจาค ผลงานของเขาและงานที่สะสมไว้ทั้งหมดให้กับทางการ