ที่ปาต๋าหลิ่ง ซึ่งเป็นจุดที่มีผู้มาเยี่ยมชมมากที่สุดนั้น ก็เพิ่งได้รับการบูรณะให้สวยงามดังเดิมและสร้างเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญหลังจากได้รับการคัดเลือกจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก และยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก
กำแพงบริเวณนี้มีความสูงเฉลี่ย 7.8 เมตร ช่องทางเดินบริเวณสันกำแพงมีความกว้างเฉลี่ย 6.5 เมตร ซึ่งสามารถนำม้า 6 ตัวขึ้นไปวิ่งพร้อมกันได้ มีช่องระหว่างระเบียงกำแพงที่มีรูปคันธนูสลักไว้เป็นสัญลักษณ์การประจำการของพลธนู และระหว่างทางก็จะมีป้อมที่ทั้งทำหน้าที่ยิงอาวุธใส่ข้าศึกศัตรู และเป็นที่พักด้วย ส่วนป้อมขนาดเล็กหน่อยจะเป็นที่สำหรับหน่อยส่งสัญญาณไฟ เพื่อติดต่อสื่อสาร
นอกจากปาต๋าหลิ่งแล้ว ยังมีกำแพงเมืองจีนอีก 2 แห่ง ซึ่งน่าจะไปเห็นด้วยตาของตนเองคือ "เจียอวี้กวน" ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นทางทิศตะวันตก ตั้งอยู่ที่เมืองอวี้กวน มณฑลกานซู่ ก่อสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง เมื่อราวปี 1372 แต่ด่านแห่งนี้ไม่เคยได้ใช้งานสงครามเลย จึงชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "ด่านสันติภาพ" หรือ "เหอผิงกวน"
อีกแห่งหนึ่งคือ "ซานไห่กวน" ซึ่งเป็น "ด่านแรกของกำแพงเมืองจีน" ตั้งอยู่ระหว่างมณฑลเหอเป่ยและมณฑลเหลียวหนิง ด้านเหนือของซานไห่กวนติดกับภูเขาเยียนซาน ด้านใต้ติดทะเลป๋อไห่ เวลาขึ้นไปยืนอยู่บนด่านจึงสามารถมองเห็นทิวทัศน์ภูเขาอันสูงตระหง่านและท้องทะเลสีเงิน ซึ่งเป็นที่มาของชื่อด่านด้วย เพราะ "ซาน" แปลว่าภูเขา และ "ไห่" แปลว่าทะเล นั่นเอง