|

หน่า กู่เจิงในแต่ละพื้นที่ของประเทศจีนนั้นก็มีลักษณะแล้วก็ชื่อเรียกแตกต่างกันไปนะคะ เช่น กู่เจิงจากมณฑลหูหนาน ซานตง แต้จิ๋ว จีนแคระ เจอะเจียง ( ) หรือว่าจากชนกลุ่มน้อยก็อย่างเช่น กู่เจิงจากมองโกลค่ะ แต่ในปัจจุบัน กู่เจิงที่ขึ้นชื่อว่าได้รับการการันตีว่าคุณภาพดีนั้นนะคะ ก็ต้องเป็นกู่เจิงจากเมืองหยางโจวค่ะ
นัส ใช่แล้วค่ะ เพราะกู่เจิงของนัส ตอนนี้ก็เป็นกู่เจิงที่เป็นยี่ห้อของหยางโจวเหมือนกันค่ะ และที่นัสเห็นตามร้านขายเครื่องดนตรีจีนโบราณทั่วไปส่วนใหญ่ก็ทำจากหยางโจวทั้งนั้นเลย แต่ถ้าเป็นสายกู่เจิงนั้นต้องเป็นยี่ห้อเซี่ยงไฮ้ค่ะ
หน่า ในอดีต สายของกู่เจิงนั้นใช้สายไหมหรือสายเอ็นเป็นส่วนใหญ่ แต่มาในยุคหลังๆนิยมใช้สายโลหะเช่นทองเหลือง ทองแดง หรือสายเหล็ก แต่ปัจจุบันนั้นนิยมใช้สายโลหะที่ไม่ขึ้นสนิม หรือสายโลหะที่ขวั้นเกลียวด้วยไนลอนโดยรอบ เพราะมีน้ำหนักดีและไม่ระคายนิ้วมือเวลาที่ดีดบรรเลงค่ะ
นัส ส่วนอุปกรณ์อื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับการเล่นกู่เจิงนะคะ ก็มีเล็บ ซึ่งทำจากพลาสติกชนิดเดียวกับปิ๊กที่ใช้ดีดกีต้าร์ แต่ว่าจะมีขนาดพอดีกับนิ้วของเราค่ะ โดยเวลาเล่นนั้นจะใช้เทปพันไว้ที่นิ้วมือทั้งสองข้าง โดยจะยกเว้นนิ้วก้อยค่ะ ส่วนเวลาบรรเลงเพลงนั้นนะคะ จะใช้มือขวาดีดโน๊ตเป็นหลัก ส่วนมือซ้ายจะใช้กดสายเพื่อเปลี่ยนเสียงโน้ตหรือทำให้เกิดเสียงสั่นค่ะ
หน่า แต่ถ้าเป็นเพลงในระดับกลางถึงยาก มือซ้ายก็ถูกนำมาเล่นโน้ตด้วยค่ะ ซึ่งการเล่นแบบนี้ถือเป็นเทคนิคระดับค่อนข้างสูงทีเดียว ต้องใช้เวลาฝึกฝนกันพอสมควรค่ะ แต่ว่าผลที่ได้มานั้นก็คุ้มค่าค่ะ เพราะว่าเพลงในระดับนี้ก็จะไพเราะ ฟังแล้วได้อารมณ์และมีชีวิตชีวามากกว่าเพลงในตอนเริ่มเรียนใหม่ ๆ มากเลยค่ะคุณนัส
นัส ใช่แล้วค่ะ จะว่าไปแล้ว นัสว่ากู่เจิงก็เป็นดนตรีที่ยิ่งเรียนก็ยิ่งสนุกนะคะคุณหน่า เพราะว่าเพลงที่เรียนก็จะเพราะขึ้นเรื่อย ๆ แถมเวลาเรียนยังได้ศึกษาความแตกต่างของวัฒนธรรมจีนในแต่ละพื้นที่ด้วยค่ะ เช่น เพลงของชนเผ่ามองโกลก็จะมีกลิ่นอายเฉพาะตัว ฟังแล้วเห็นภาพกระโจมสีขาวที่ตัดกับท้องฟ้าสีครามและทุ่งหญ้าสีเขียวชอุ่มมาปรากฎอยู่ตรงหน้าเลยค่ะ
หน่า ที่เป็นแบบนี้นะคะ ก็เพราะว่ากู่เจิงนั้นมีถึง 21 สายจึงมีความละเอียดของโน้ตดนตรีที่ค่อนข้างสูง เมื่อบรรเลงออกมาจึงได้เสียงเลียนแบบธรรมชาติที่คล้ายคลึงกับสายธารน้ำไหล เสียงนกร้อง หรือว่าเสียงคลื่นกระทบฝั่ง เป็นต้น ได้อย่างชัดเจนค่ะ ซึ่งทำให้เพลงที่บรรเลงโดยกู่เจิงนั้น เข้าถึงอารมณ์ของผู้ฟังได้มากกว่าเพลงที่บรรเลงจากเครื่องดนตรีอื่น ๆ
นัส นอกจากนี้ กู่เจิงก็ยังมีข้อดีในการช่วยฝึกสมาธิให้กับผู้เล่นได้เป็นอย่างดีด้วยนะคะ เนื่องด้วยโน้ตเพลงที่เยอะและซับซ้อน ทำให้ผู้เล่นต้องใช้สมาธิประกอบกับความตั้งใจอย่างมากในการซ้อมและการเล่นค่ะ ซึ่งอันนี้นัสก็สัมผัสมาด้วยตัวเองเลยนะคะ เพราะหลังจากนัสเริ่มเรียนกู่เจิง ไปได้สักพัก นัสก็มีสมาธิในการอ่านหนังสือดีขึ้น แล้วยังมีความจำดีขึ้นด้วยคะ
1 2 3 4
|