หลังจากนั้น เวลาไปตัดไม้ตัดฟืนบนภูเขา หรือไปทำไร่ไถนา หนุ่มคนนี้จะนำข้าวเหนียวสีดำติดมือไปด้วย ลิงบนภูเขาเห็นข้าวสีดำๆ นึกว่าเป็นของที่กินไม่ได้ ก็เลยไม่มาขโมยกิน แม่ลูกคู่นี้จึงไม่ต้องเดือดร้อนกับเรื่องนี้อีก ต่อมา เมื่อคนในหมู่บ้านรู้ว่าข้าวเหนียวสีดำอร่อยกว่าข้าวเหนียวธรรมดา ก็พากันทำตาม บางคนไม่เพียงแต่ทำข้าวเหนียวสีดำ หากยังได้คิดหาวิธีทำใหม่ๆ จนเกิดข้าวเหนียวสีแดง สีเหลือง และสีม่วงด้วย สุดท้าย ข้าวเหนียว 5 สีก็กลายเป็นอาหารประจำชนชาติจ้วง ปัจจุบัน อาหารชนิดนี้กลายเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของชนชาติจ้วงที่ดึงดูดนักท่องที่ยวทั้งจีนและต่างประเทศให้ไปเที่ยวยังหมู่บ้านชาวจ้วง นายซูนเทา นักท่องเที่ยวจากมณฑลอันฮุยให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า

"ข้าวเหนียวของชนชาติจ้วงมีหลายสี มีรูปลักษณ์สวยมาก มีกลิ่นหอม และมีรสชาติอร่อยเป็นพิเศษ ได้กินครั้งเดียวก็จะไม่มีวันลืมอีกเลย "

ในช่วงที่อากาศไม่ร้อนมาก ข้าวเหนียวนี้เก็บรักษาไว้ได้นานหลายวันทีเดียว โดยรสชาติและกลิ่นหอมจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ

นายถัง หงนักชิมที่มีชื่อเสียงของชาวจ้วงยังได้แนะนำถึงวิธีการรับประทานข้าวเหนียว 5 สีว่า

"เมื่อนึ่งข้าวเหนียวสุกแล้ว ชาวจ้วงจะนำถั่วลิสงและงามาผัดจนหอม แล้วใส่ครกตำ จากนั้น นำถั่วลิสงและงาบดใส่ลงไปในข้าวเหนียว แล้วคนให้เข้ากัน เมื่อทำเช่นนี้แล้ว ก็จะได้ข้าวเหนียวที่มีรสชาติอร่อยยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีวิธีการรับประทานข้าวเหนียวอีกอย่างหนึ่ง เรียกว่าการทำข้าวหลาม คือ นำข้าวเหนียวใส่ในกระบอกไม้ไผ่สด แล้วปิ้งจนหลอดไม้ไผ่แตก ข้าวเหนียวที่ได้จะมีกลิ่นหอมไม้ไผ่ด้วย"

ชาวชนชาติจ้วงถือว่า ข้าวเหนียว 5 สีเป็นสัญลักษณ์แห่งความผาสุขและเป็นของสิริมงคล จึงนิยมทำข้าวเหนียว 5 สีในกรณีวันสำคัญที่เป็นสิริมงคลต่างๆ นอกจากวันขึ้น 3 ค่ำเดือน 3 แล้ว ยังมีในโอกาสอื่นๆ ด้วย อาทิ วันฉลองเดือนให้ทารก วันขึ้นบ้านใหม่ เป็นต้น

คุณผู้ฟังครับ ช่วงนี้พอดีเป็นช่วงที่ชาวจ้วงทำข้าวเหนียว 5 สีกัน ถ้าท่านเดินทางไปหมู่บ้านชนชาติจ้วง จะมีโอกาสลิ้มรสอาหารประจำชนชาตินี้

(Cai)