เมื่อเร็วๆนี้ ภาพแต่งงานภาพหนึ่งเป็นที่ติดตามกันในโลกอินเตอร์เน็ตของจีน เพราะสองคนบนภาพถ่ายนี้เป็นหนุ่มหล่อวัยประมาณ 20 กว่าปีกับสตรีรุ่นยายอายุกว่า 80
จริงๆ แล้ว สองคนนี้เป็นยายกับหลาน หลานชื่อว่า จางเจียกั่ง อายุ 24 ปี เป็นนักผจญเพลิงในกองผจญเพลิงอำเภอเฟินอี๋ของมณฑลเจียงซี ส่วนคุณยายชื่อ ถังไฉอิง อายุ 85 ปีแล้ว เป็นพนักงานทำความสะอาดที่เกษียณแล้วจากโรงพยาบาลเหรินหมินของอำเภอเฟินอี๋ มณฑลเจียงซี
ตั้งแต่ปี 1983 เป็นต้นมา คุณยายถังไฉอิงได้รับเลี้ยงเด็กทารกที่ถูกทอดทิ้งในบริเวณใกล้โรงพยาบาลมาหลายคน ซึ่งเด็กบางคนได้มีครอบครัวใหม่รับไปเลี้ยงดูแล้ว แต่บางคนสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง ถังไฉอิงก็ปฏิบัติผ่านขั้นตอนการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมอย่างเป็นทางการเพื่อเลี้ยงพวกเขาด้วยตัวเอง
เมื่อ 24 ปีก่อน จางเจียกั่ง ถูกทิ้งไว้ที่ทางเข้าโรงพยาบาล ถังไฉอิงที่มีอายุ 61 ปีก็พาจางเจียกั่งกลับบ้านด้วย ใช้บำนาญและรายได้จากการขายผักและเศษขยะ ถังไฉอิงและสามีได้เลี้ยงทั้งบุตรของตนเองและทารกที่ถูกทอดทิ้ง 6 คนจนโตขึ้น
ในใจของจางเจียกั่ง คุณยายถังไฉอิงรักเขามาก เป็นเหมือนแม่ของเขา แต่เพราะเขามีอายุไล่เลี่ยกับหลานของถังไฉอิง จางเจียกั่งและพี่สาวชื่อ จางหลินที่เป็นทารกถูกทอดทิ้งเช่นกัน จึงเรียกถังไฉอิงว่า "ยาย" จางเจียกั่งบอกว่า คุณยายได้ให้ชีวิตครั้งที่สองกับเขา
ตั้งแต่ปี 2001 กองผจญเพลิงของอำเภอเฟินอี๋อุดหนุนค่าเล่าเรียนทั้งหมดสำหรับจางเจียกั่งและจางหลิน บางทีก็เอาหนังสือ ปากกาและสมุดมาให้ และเชิญสองพี่น้องและคุณยายไปทานข้าวร่วมกับนักผจญเพลิงในช่วงเทศกาล จางเจียกั่งกล่าวว่า การทานข้าวแบบนี้คึกคักมาก พี่ๆให้อาหารอร่อยมามากมาย ทำให้รู้สึกอบอุ่นใจ ในช่วงสิบปี นักผจญเพลิงได้เปลี่ยนหลายรุ่นแล้ว แต่การอุดหนุนที่มีต่อพี่น้องคู่นี้ไม่เคยขาดสายเลย
จนถึงปี 2013 จางหลินจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยในปี 2016 และจางเจียกั่งจบการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมปลาย เพราะจางเจียกั่งถือกองผจญเพลิงเป็นครอบครัวที่สองของเขา จึงได้ฝังเมล็ดความฝันในใจของเขา เขาเคยเห็นการฝึกซ้อมของพี่ๆ และรู้สึกว่า พวกเขามีความขยันหมั่นเพียรและความกล้าหาญ เมื่อเสียงแจ้งภัยดังขึ้น พวกเขาก็รีบออกไปช่วยเหลือคนอื่น เป็นฮีโร่จริงๆ เขาเองจึงสมัครเป็นนักผจญเพลิง ได้กลายเป็นเพื่อนร่วมงานกับพี่น้องที่เคยให้การสนับสนุนกับเขา
แม้ว่างานนี้ทั้งลำบากและเหนื่อยกว่าที่คิด แต่จางเจียกั่งรู้สึกดีใจและภาคภูมิใจมาก บอกว่าอาชีพนี้สามารถตอบแทนบุญคุณของสังคม เขาบอกว่า คุณยายให้ชีวิตครั้งที่สองแก่เขา นักผจญเพลิงที่เคยเสนอความช่วยเหลือได้ให้ชีวิตครั้งที่สาม
และนอกจากทำงานให้ดีแล้ว จางเจียกั่งก็เหมือนกับพี่ๆ ที่เคยช่วยตนเอง เขาก็เสนอความช่วยเหลือให้กับนักเรียนสองคน ซึ่งคุณแม่ติดโรคหนักและเสียชีวิตแล้ว เขากล่าวว่า จะพยายามสุดความสามารถ ทำให้เด็กๆที่ประสบความทุกข์ยาก รู้สึกถึงความอบอุ่นและความเมตตาของโลกนี้
หลังจากได้ทำงานแล้ว จางเจียกั่งมีเวลาอยู่กับคุณย้ายน้อยลง แต่เมื่อมีเวลาว่าง เขาก็จะพาคุณยายออกไปเที่ยว ตอนที่อายุยังน้อยคุณยายชอบได้แต่งตัวสวยๆ แต่คุณยายไม่เคยสวมชุดแต่งงานเลยสักครั้ง จางเจียกั่งจึงแอบจัดเซอร์ไพรส์ให้กับยาย ด้วยการพาตาและยายไปถ่ายภาพชุดแต่งงานกัน
แต่เนื่องจากคุณตาไม่สบายจึงไปไม่ได้ จางเจียกั่งจึงสวมเครื่องแบบไปถ่ายภาพชุดแต่งงานกับคุณยายแทน เมื่อมองตัวเองในภาพสวยๆ นั้น คุณยายรู้สึกเขินอายแต่มีความสุขมาก
จางเจียกั่งกล่าวว่า เขาได้เรียนรู้มากมายจากคุณยายที่เรียนหนังสือแค่ชั้นประถมเท่านั้น นั่นคือความเมตตา การคำนึงถึงผู้อื่น และความกตัญญูกตเวที เขากล่าวว่า แม้ว่ายายจะตัวเล็กและไม่สูงใหญ่ แต่เธอได้แบกรับสิ่งต่างๆมากมายและก็มีจิตใจที่แข็งแกร่งมาก
คนจีนมีประโยคว่า คนใจดีจะต้องได้รับการตอบแทนที่ดี แม้ว่าการถ่ายภาพแต่งงานเป็นเรื่องง่ายๆ แต่แสดงให้เห็นถึงความรักและความอบอุ่นในใจของจางเจียกั่ง คุณยายได้ช่วยเหลือทารกที่ถูกทอดทิ้งจำนวนมาก เธอเองก็ได้รับการตอบแทนและความรักจากลูกหลาน
ส่วนจางเจียกั่งก็เป็นที่ชื่นชมของชาวเน็ตจีน เขากล่าวว่า พอใจกับชีวิตปัจจุบันมาก และความปรารถนาที่ใหญ่ที่สุดก็คือ “ให้คุณยายมีสุขภาพแข็งแรง” และทุกครั้งที่ออกไปปฏิบัติหน้าที่จะต้องกลับมาด้วยความปลอดภัย เพื่อที่จะมีเวลาอยู่กับคุณยายให้มากๆ