หนังสืออัตชีวประวัติครึ่งแรกของชีวิตผู่อี๋นี้ เริ่มบอกเล่าเรื่องตั้งแต่ปูมหลังทางครอบครัว การก้าวขึ้นมาเป็นฮ่องเต้องค์สุดท้าย จนถึงปี1959 ภายใต้การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในสถานคุมขัง การรู้สำนึกผิดและปรับเปลี่ยนเป็นคนใหม่ของผู่อี๋ โดยมีด้วยกันสามฉบับหลัก ได้แก่ ฉบับปกเทา (灰皮本) ฉบับปรับปรุง(定本) และฉบับสมบูรณ์(全本) ความแตกต่างของแต่ละฉบับแฝงไว้ซึ่งค่านิยมและกรอบเกณฑ์ทางวัฒนธรรมและสังคมที่แตกต่างในแต่ละช่วง ซึ่งฉบับปกเทาถือเป็นฉบับดั้งเดิม ที่ผู่อี้เขียนขึ้นในทำนอง "บันทึกสำนึกตน" ระหว่างอยู่ในสถานกักกันคุมประพฤติอาชญากรสงครามฝู่ซุ่น
แต่เพราะการลำดับความคิดของผู่อี๋มีความสับสน ข้อเท็จจริงด้านประวัติศาสตร์ก็ไม่ชัดเจนในหลายที่ ประธานเหมาเจ๋อตงและนายกโจวเอินไหลให้ความสำคัญตรงจุดนี้ จึงจัดให้มีการปรับปรุงแก้ไขเนื้อหา โดยยึดถือต้นฉบับเดิมเป็นสำคัญ และได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ในปี 1960 โดยสำนักพิมพ์ฉวิ๋นจ้งชูป่านเซ่อ 群众出版社 แต่เพราะเดิมทีเป็นไปในเชิงการเขียนรายงานสำนึกผิด ถือเป็นฐานข้อมูลรายงานการสอบปากคำ จึงจัดพิมพ์ออกมาเพียง 8,000 เล่ม แจกจ่ายให้รับทราบกันภายในหน่วยงานราชการ และเพื่อให้ง่ายต่อการจำแนกจึงใช้กระดาษสีเทา(หรือสีเหลืองอ่อน)ทำเป็นปก จึงกลายเป็นทีมาของชื่อเรียกที่ติดปากกันว่า หนังสือปกเทา
ส่วนฉบับปรับปรุง สืบเนื่องเพราะฉบับหนังสือปกเทายังขาดความสมบูรณ์ในเนื้อหาบางส่วน ทางสำนักพิมพ์ฉวิ๋นจ้งชูป่านเส่อจึงมอบหมายให้บรรณาธิการ หลี่เหวินต๋า 李文达 เป็นผู้ช่วยร่วมกับผู่อี๋ทำการแก้ไขปรับปรุงกันขึ้นใหม่ แต่บก.หลี่เห็นว่างานต้นฉบับยังมีปัญหาติดขัดที่ไม่ใช่เพียงแค่ตัดเติมเป็นจบ จึงขออนุญาติหัวหน้าสำนักพิมพ์และผู่อี๋เจ้าของผลงานไปสัมภาษณ์ผู้เกี่ยวข้องหรืออยู่ในเหตุการณ์ อาทิ ขันที รวมถึงหาข้อมูลเพิ่มเติม และเขียนเพิ่มต่อออกมาความยาวกว่าห้าแสนตัวอักษร
แต่เพราะมีเนื้อหาบางส่วนที่เห็นว่าอาจพาดพิงไปสู่ปัญหาอื่นๆ ได้ อาทิ เรื่องราวอดีต ภรรยาของผู่อี๋ ที่เจ้าตัวเกรงว่าจะกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างตนกับภรรยาคนปัจจุบันหลี่ซูเสียน (李淑贤) จึงมีการตัดทอนเนื้อหาบางส่วนออกไป ซึ่งฉบับปรับปรุงนี้ได้รับการตรวจสอบและพิจารณาจากผู้นำและผู้เชี่ยวชาญ นักประวัติศาสตร์และนักเขียนช่วยกันตรวจทานชี้แนะและสำเร็จตีพิมพ์ออกมาเป็นครั้งแรกในปี 1964 โดยหลี่เหวินต๋าขอเป็นเพียงผู้อยู่เบื้องหลัง ใส่เพียงผู่อี๋เป็นชื่อผู้เขียน ภายหลังการออกวางจำหน่ายครั้งแรกในจีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกง มียอดจำหน่ายทำสถิติสูงถึงหนึ่งแสนเล่ม และนอกจากนี้ภายหลังการปรับตัดส่วนต่างๆ ที่เห็นว่าไม่เหมาะสมออกไปแล้ว จึงมอบให้สำนักพิมพ์ไว่เหวินชูป่านเซ่อ (外文出版社) ทำการแปลและเผยแพร่สู่ต่างประเทศ
สำหรับฉบับสมบูรณ์ ภายหลังการปฏิวัติวัฒนธรรมจบสิ้นลง สำนักพิมพ์ฉวิ๋นจ้งชูป่านเซ่อก็ไม่ได้ละทิ้งเนื้อหาฉบับเต็มของหลี่เหวินต๋า เมื่อเงื่อนไขทางประวัติศาสตร์ต่างๆ ได้หมดสิ้นไปแล้ว "ครึ่งชีวิตแรกของฉัน" ฉบับสมบูรณ์ ก็ถูกตีพิมพ์ออกมาในปี 2007 ซึ่งหากจะเปรียบเทียบกันแล้ว ทั้งสามฉบับต่างมีจุดขายของตนอยู่ในตัว แม้ฉบับปกเทาจะขาดความสมบูรณ์แต่ก็เป็นการสัมผัสกับอรรถรสดั้งเดิมที่มาจากปากคำของผู่อี๋ และเขียนถ่ายทอดโดยผู่เจี๋ย ผู้เป็นน้องชายแท้ๆ ย่อมได้อรรถรสที่ต่างกับการปรุงแต่งภาษาจากผู้เป็นเจ้าหน้าที่ของทางราชการอย่างบรรณาธิการหลี่
เก่าเล่าไปใหม่บอกมา โดย วังฟ้า 羅勇府
*หมายเหตุ ลำดับรัชสมัยจักรพรรดิจีนแห่งราชวงศ์ชิง (นับจากปี 1644 ที่เข้ายึดครองปักกิ่ง)
1.รัชสมัยซุ่นจื้อ 顺治 ค.ศ.1644-1661
2.รัชสมัยคังซี 康熙 ค.ศ.1662-1722
3.รัชสมัยยงเจิ้ง 雍正 ค.ศ.1723-1735
4.รัชสมัยเฉียนหลง 乾隆ค.ศ.1736-1795
5.รัชสมัยเจียชิ่ง 嘉庆 ค.ศ.1796-1820
6.รัชสมัยเต้ากวง 道光ค.ศ.1821-1850
7.รัชสมัยเสียนเฟิง 咸丰 ค.ศ.1851-1861
8.รัชสมัยถงจื้อ 同治 ค.ศ.1862-1874
9.รัชสมัยกวงซวี่ 光绪 ค.ศ.1875-1908
10. รัชสมัยเซวียนถ่ง (ผู่อี๋) 宣统 ค.ศ.1909-1911
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับราชวงศ์ชิงได้จาก: http://thai.cri.cn/chinaabc/chapter14/chapter140111.htm