วันที่ 25 กันยายนนี้ สำนักงานสารสนเทศแห่งคณะรัฐมนตรีจีนประกาศหนังสือปกขาว โดยย้ำว่า เกาะเตี้ยวอวี๋และเกาะบริวารเป็นดินแดนที่แบ่งออกไม่ได้ของจีน ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า การออกประกาศหนังสือปกขาวครั้งนี้เป็นการประกาศทางนโยบายที่มีอำนาจที่สุดของรัฐบาลจีนในการโต้ตอบปฏิบัติการจัดซื้อเกาะเตี้ยวอวี๋ของรัฐบาลญี่ปุ่น โดยได้อธิบายอย่างชัดเจนอีกครั้งว่า เกาะเตี้ยวอวี๋เป็นดินแดนของจีนมาตั้งแต่โบราณ และแสดงความตั้งใจทำและความเชื่อมั่นของจีนในการรักษาอธิปไตยเหนือเกาะเตี้ยวอวี๋ต่อประชาคมโลกอีกครั้ง
หนังสือปกขาวเรื่อง "เกาะเตี้ยวอวี๋เป็นดินแดนดั้งเดิมของจีน" นี้มีตัวอักษรประมาณ 8,000 ตัว และแบ่งเป็น 5 ส่วน ได้แก่ "เกาะเตี้ยวอวี๋เป็นดินแดนดั้งเดิมของจีน" "ญี่ปุ่นขโมยเกาะเตี้ยวอวี๋ของจีน" "การแอบมอบและรับเกาะเตี้ยวอวี๋ระหว่างสหรัฐฯ กับญี่ปุ่นเป็นปฏิบัติการที่มิชอบด้วยกฎหมายและไร้ผลบังคับ" "ญี่ปุ่นไม่มีหลักฐานยืนยันตนเองว่ามีอธิปไตยเหนือเกาะเตี้ยวอวี๋อย่างสิ้นเชิง" และ "จีนจะต่อสู้เพื่อรักษาอธิปไตยของเกาะเตี้ยวอวี๋จนถึงขั้นตอนสุดท้าย"
นายหลิว โหยวฝ่า รองผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาวิจัยปัญหาระหว่างประเทศของจีนให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอว่า เนื้อหาของหนังสือปกขาวเล่มนี้ได้อธิบายอย่างชัดเจนว่า เกาะเตี้ยวอวี๋เป็นดินแดนดั้งเดิมของจีนจากแง่มุมทางประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ และกฎหมาย จีนมีอธิปไตยในเกาะเตี้ยวอวี๋ที่ไม่สามารถโต้เถียงได้ เขากล่าวว่า "หนังสือปกขาวฉบับนี้ได้บรรยายจากแง่มุมทางประวัติศาสตร์ว่า จีนมีอธิปไตยในเกาะเตี้ยวอวี๋ และได้อธิบายอย่างชัดเจนว่า ญี่ปุ่นขโมยเกาะเตี้ยวอวี๋ของจีนอย่างไร รวมถึงบรรยายอย่างชัดเจนเกี่ยวกับปฏิบัติการที่สหรัฐฯ มอบสิทธิบริหารเกาะเตี้ยวอวี๋ให้กับญี่ปุ่น โดยไม่ได้ผ่านการอนุมัติยินยอมของจีน (หนังสือปกขาวฉบับนี้) ประกาศต่อประชาคมโลกอีกครั้งอย่างชัดเจนว่า การที่ญี่ปุ่นประกาศให้รวมเกาะเตี้ยวอวี๋เป็นดินแดนของญี่ปุ่นนั้น ไม่มีหลักฐาน"
หนังสือปกขาวดังกล่าวชี้ว่า จีนคัดค้านและต้องการระงับญี่ปุ่นที่แทรกแซงอธิปไตยของจีนในทุกรูปแบบ จีนมีจุดยืนที่ชัดเจนมาโดยตลอดในปัญหาเกาะเตี้ยวอวี๋ มีความตั้งใจในการรักษาอธิปไตยและบูรณะภาพแห่งดินแดนอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ และมีความตั้งใจที่จะไม่หวั่นไหวแม้แต่นิดเดียวในการคุ้มครองผลสำเร็จในสงครามต่อต้านลัทธิฟาสซิสต์ของทั่วโลก นายหลิว โหย่วฝ่าเห็นว่า ทั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจและความเชื่อมั่นของรัฐบาลจีนในการรักษาอธิปไตยของเกาะเตี้ยวอวี๋ต่อประชาคมโลกอีกครั้ง ขณะเดียวกันยังเป็นการยืนยันจุดยืนสำคัญของจีนในการจัดการปัญหาเกาะเตี้ยวอวี๋ให้ชัดเจนมากขึ้นอีกด้วย
Yim/Ldan