เมื่อย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงของจีน (ก.ย.-พ.ย.) ใบไม้ส่วนใหญ่จะเริ่มเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเหลือง สีส้มหรือสีแดงก่อนจะร่วงหล่นไปจนหมดต้น เช่น ใบแปะก๊วยจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ส่วนใบเมเปิ้ลและหวงหลู (Cotinus coggygria) จะเปลี่ยนเป็นสีแดง ทำให้ธรรมชาติในยามนี้งดงามเต็มไปด้วยสีสันสดใสตระการตาน่าภิมย์ยิง เพราะฉะนั้น ยามนี้น่าจะมีชื่อว่าฤดูใบไม้เปลี่ยนสีมากกว่าฤดูใบไม้ร่วง
ตามปกติ ใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนสีจากทางภาคเหนือสู่ภาคใต้ของจีนตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมจนถึงปลายเดือนพฤศจิกายนในทุกปี เพราะอากาศทางภาคเหนือจะหนาวเร็วกว่าภาคใต้ เพราะในฤดูนี้ คลอโรฟิลล์ในใบไม้สีเขียวจะค่อยๆ หายไปตามการลดลงของอุณหภูมิ ใบไม้ของพืชต่างๆ จึงเริ่มเปลี่ยนสีกัน สำหรับเวลาแน่ชัดที่ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีนั้น ต้องขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและอุณภูมิในแต่ละปี ขณะเดียวกัน ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีก็เป็นโอกาสให้ที่โรงเรียนประถมต่างๆ พาเด็กๆ ไปเที่ยวและสัมผัสกับธรรมชาติด้วย
ชาวจีนจำนวนมากต่างก็ชอบฤดูกาลนี้มากที่สุด โดยเห็นว่าเป็นฤดูกาลที่งดงามและโรแมนติคที่สุดของทั้งปี เพราะตามหุบเขาธรรมชาติจะเต็มไปด้วยต้นไม้ที่แข่งขันกันอวดสีสันของใบไม้ เพิ่มความงดงามให้กับหุบเขาอย่างมาก เป็นมนต์เสน่ห์ให้นักท่องเที่ยวทั้งหลายต่างหลงไหล และติดใจ อยากจะไปเที่ยวชมความงดงามในสวนป่า และภูเขาต่างๆ ในทุกปี ถ้าท่านได้ไปชมความงดงามในภูเขาที่เต็มไปด้วยต้นไม้สีส้มและสีแดง ไม่ก็ได้เดินทับทางเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยใบไม้ร่วงสีเหลืองในป่า รับรองได้ว่า ท่านจะประทับใจอย่างแน่นอน
ช่วงนี้ ใบไม้ในกรุงปักกิ่งกำลังเริ่มเปลี่ยนสีแล้ว โดยเฉพาะต้นเมเปิ้ลและต้นหวงหลู ซึ่งเป็นใบไม้เปลี่ยนสีที่ปลูกมากที่สุด เพราะฉะนั้น วันนี้ ดิฉันจะแนะนำสถานที่ยอดนิยมด้านการชมใบไม้สีแดงในกรุงปักกิ่ง เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการท่องเที่ยวให้ท่าน
1 - ภูเขาเซียงซาน
กล่าวได้ว่า ภูเขาเซียงซานเป็นสถานที่ที่ขึ้นชื่อมากที่สุดด้านการชมใบไม้เปลี่ยนสีที่กรุงปักกิ่ง สวนสาธารณะภูเขาเซียงซานจะจัดเทศกาลใบไม้เปลี่ยนสีเป็นประจำ ปีนี้เป็นครั้งที่ 25 แล้ว
ภูเขาเซียงซานมีต้นไม้กว่า 30 ชนิด แต่ต้นไม้ที่ปลูกมากที่สุดก็คือต้นหวงหลูที่มีใบไม้เป็นรูปทรงไข่ ซึ่งส่วนใหญ่จะเปลี่ยนเป็นสีแดง และบางส่วนจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง สีส้ม และสีแดงอมสีม่วง ส่วนใบเมเปิ้ลที่นี่บ้างก็จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง และสีแดง แต่ทว่า ถึงแม้จะเป็นต้นชนิดเดียวกัน ถ้าปลูกในที่ต่างกัน ก็จะไม่เปลี่ยนสีพร้อมกัน เพราะฉะนั้น ถ้าอยากจะชมทิวทัศน์ภูเขาและหุบเขาที่เต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสี ขอให้ไปชมในปลายเดือนตุลาคมและต้นเดือนพฤศจิกายน แต่ถ้าอยากจะถ่ายรูปแบบฉากใกล้เฉยๆ ก็ไม่ต้องกังวงเรื่องเวลาแล้ว เนื่องจากมีต้นไม้จำนวนมาก ถึงจะไปชมในเดือนพฤศจิกายนก็ยังสามารถพบใบไม้เปลี่ยนสีได้บ้างนิดหน่อย
เส้นทางท่องเที่ยว
เส้นทางปีนเขาเที่ยวชมทิวทัศน์นั้นเป็นสน้นทางดั้งเดิมตั้งแต่จักรพรรดิสมัยโบราณของจีน - เข้าสวนจากประตูตะวันออก เลี้ยวซ้าย เดินไปเรื่อยๆ จะได้ชมทิวทัศน์หลายๆ แห่ง
เส้นทางแบบสะดวกสบาย - ถ้ามีเวลาเที่ยวชมไม่มาก หรือเดินไม่ไหว ขอให้เข้าจากประตูตะวันออก เลี้ยวซ้าย ประมาณ 5 นาทีก็จะถึงจุดทิวทัศน์แห่งแรก ซึ่งก็คือ ทะเลสาบจิ้งฉุ้ย ที่รอบล้อมโดยใบไม้สีแดงและดอกไม้สีเหลือง เป็นสถานที่เหมาะกับการถ่ายรูปอย่างยิ่ง
นั่งกระเช้าไฟฟ้าชมวิว - ถ้าอยากขึ้นที่สูงและมองเห็นทิวทัศน์ทั่วทั้งภูเขา ขอให้นั่งกระเช้าไฟฟ้าขึ้นสู่ยอดเขา ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 17 นาที และเวลาขึ้นไป ยังสามารถชมทิวทัศน์ข้างๆ จากหน้าต่างได้ด้วย
เวลาให้บริการของสวนเซียงซาน 6.00-18.00 น.
2 - สวนสาธารณะภูเขาป่ายวั่ง สวนป่าที่เดินทางสะดวกที่สุดของปักกิ่ง
สวนสาธารณะภูเขาป่ายวั่ง อยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของปักกิ่ง และมีเทศกาลใบไม้เปลี่ยนสีเป็นประจำปีเช่นกัน
ภูเขาป่ายวั่งมีพื้นที่กว้างขวางและมีต้นไม้มากมาย ต้นไม้ที่นี่ปลูกอย่างหนาแน่น และเติบโตด้วยดี สภาพดินและอากาศล้วนเหมาะกับการเติบโตของต้นไม้เปลี่ยนสีต่างๆ อย่างยิ่ง เพราะฉะนั้น ใบไม้ที่นี่จะมีสีแดงเป็นพิเศษเต็มภูเขา และสามารถเข้าชมได้ตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมจนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน ถ้าท่านปีนเขาเก่ง ยังสามารถชมทิวทัศน์เมืองปักกิ่งจากยอดเขาได้ด้วย
เมื่อเปลียบเทียบกับภูเขาเซียงซานแล้ว ที่นี่จะมีนักท่องเที่ยวจำนวนน้อยกว่า อีกทั้งยังมีความสะดวกอย่างยิ่งด้านการเดินทางด้วย ถ้าขับรถไป ที่นี่สามารถจอดรถได้เกือบ 1,000 คน ถ้านั่งรถเมล์ไป ขอให้นั่งสาย 330 968 718 697 518 909 957 เป็นต้น โดยลงที่ป้ายป่ายวั่งซานกงหยวน (สวนภูเขาป่ายวั่ง)
Ton/Ldan