ช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ถือเป็นจังหวะดีในชีวิตอีกช่วงเพราะได้มีโอกาสต้อนรับบุคคลสำคัญท่านหนึ่ง ศาสตราจาย์กิตติคุณพีระศักดิ์ จันทร์ประทีป นายกสภามหาวิทยาลัยราชมงคลศรีวิชัย ท่านเป็นทั้งนักบริหาร เป็นนักวิชาการที่มีความเชี่ยวชาญสามารถนำศาสตร์แขนงต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์กับการดำเนินชีวิตประจำวันของท่านเองและคนรอบข้าง นอกจากนั้นท่านยังเป็นแฟนรายการสานสัมพันธ์ไทยจีนที่ออกอากาศทางสถานีวิทยุแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยด้วย
"ปกติเคยรับราชการสอนหนังสืออยู่ที่จุฬาฯ เมื่อเกษียณอายุก็ยังเป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยอีกสิบปี เพิ่งหมดเทอมเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่แล้ว ตอนเย็น ๆ เวลากลับบ้าน หรือบางทีก็ยังไม่กลับ ก็จะเปิดวิทยุจุฬาฯฟัง โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับข่าวจากประเทศจีน จุฬาฯกับซีอาร์ไอมีความสัมพันธ์กัน มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ก็เลยฟังมาโดยตลอด "
เพื่อให้สามารถสัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้อย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น อาจารย์และคณะเลือกที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวเอง เช้าตรู่ของวันแรกที่เดินทางถึงสนามบินนานาชาติโสว่ตู เป้าหมายจึงพุ่งตรงสู่กำแพงเมืองจีน หนึ่งในสัญลักษณ์ของประเทศจีนที่ใครมาจีนแล้วยังไม่ได้ไป เหมือนยังไม่ถึงจีนยังไงยังงั้น
ศาสตราจารย์กิตติคุณพีระศักดิ์ จันทร์ประทีป (ซ้ายสุด)
ถ่ายที่พิพิธภัณฑ์กำแพงเมืองจีน ด่านปาต๋าหลิง ปักกิ่ง
"ตั้งแต่เด็ก ๆ ได้ยิน ได้ฟัง ได้อ่านได้เห็นภาพกำแพงเมืองจีน พอมาถึงจึงไปกำแพงเมืองจีนก่อน ผมเห็นว่าสมัยก่อนที่กษัตริย์ต้องสร้างกำแพงเมืองจีน ก็น่าจะชอบด้วยเหตุผลว่า สมัยก่อนมีการรุกราน มีการรบกัน การป้องกันประเทศสมัยนั้น วิธีนี้คงเป็นวิธีหนึ่ง การสร้างกำแพงป้องกันข้าศึก ให้ข้าศึกเข้ามารุกรานประเทศได้ยากขึ้น แต่ผลที่บรรพบุรุษของชาวจีน ทำไว้ครั้งนั้น มาถึงวันนี้ผมคิดว่า เป็นมรดกอันล้ำค่าสำหรับชาวจีน และชาวโลกด้วย มนุษย์ถ้าลองมีปัญหา มีความตั้งใจที่ต่อเนื่อง สามารถสร้างกำแพงเมืองจีนยาวเป็นหลายพันเป็นหมื่นกิโลเมตร แล้วสร้างให้มีอายุยืนยาวจนถึงปัจจุบันนี้ ผมว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์อย่างยิ่ง ต่างประเทศก็ยอมรับ"
คณะผู้ร่วมเดินทาง ถ่ายที่กำแพงเมืองจีน