ปัจจุบันนี้คนเราไม่ค่อยแก่กัน สมัยก่อน อายุ 50 ปีก็เรียกเป็นคนแก่แล้ว แต่เดี๋ยวนี้อายุ 45 ปียังเรียกเป็นหนุ่มสาวดูหน้าตาก่อนกว่าวัยกัน ผู้ที่จะเกษียณอายุ 60 ปีส่วนใหญ่ยังแข็งแรงและมีความมั่นใจต่อชีวิตปั้นปลาย

ก่อนเกษียณอายุก็ได้เตรียมใจพร้อมและได้ค้นหาข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการรักษาสุขภาพโดยวิธีธรรมชาติ การออกกำลังกาย การทำใจให้ปล่อยวาง การหาความสุขใส่ตัวซึ่งมีมากมายหลากหลาย และเพื่อนพี่ๆที่เป็นผู้สูงอายุหลายคนได้ส่งอีเมล์มาเป็นประจำ มีทั้งรูปถ่ายสวยงามและแนะนำประสบการณ์การดำรงชีวิตอย่างมีความสุข ตลอดจนวิธีบำบัดสุขภาพให้แข็งแรง อ่านดูแล้วรู้สึกประทับใจมาก จึงอยากจะเอาอย่างเพื่อนพี่ๆ ให้ชีวิตหลังเกษียณอายุเต็มไปด้วยความสุข

ยุคนี้ อายุ 60 ปียังเป็นรุ่นเด็กที่สุดในขบวนผู้สูงอายุ เพราะคนปัจจุบันอายุยืนยาวขึ้น ผู้สูงอายุ 80-90 ปี มีจำนวนมาก ได้อ่านข่าวหลายข่าวว่า จีนกำลังวิ่งเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ กลายเป็นประเทศที่มีประชากรผู้สูงอายุมากที่สุด และเพิ่มขึ้นเร็วที่สุด ซึ่งคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุก็จะเป็นประเด็นของสังคม เพราะทุกบ้านมีปู่ย่าตายาย คุณลุงคุณป้า พ่อแม่ และใครๆก็จะต้องมีวันที่แก่ชราไป ความสุขของผู้สูงอายุจะเป็นเรื่องสำคัญมาก

มีใครอยากแก่บ้างไหมคะ แต่การแก่ชราเป็นเรื่องธรรมชาติไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้ เพื่อนผู้สูงอายุพากันแนะนำว่า ต้องรู้จักความพอใจ รู้จักหาความสุขใส่ตัว เช่น ไม่ต้องทำงานแต่มีบำเหน็จบำนาญให้อยู่ได้สบายจนถึงสิ้นชีวิตและยังเหลือกินเหลือใช้สามารถเอาไปเที่ยวต่างถิ่นหรือต่างประเทศได้นอกจากนี้ ยังได้รับสิทธิพิเศษอีกหลายประการ

จากที่สังเกตมา คนจีนผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป จะมีบัตรผู้สูงอายุ สามารถเข้าแหล่งท่องเที่ยว สวนสาธารณะ พิพิธภัณฑ์ นั่งรถประจำทาง รถไฟใต้ดินฟรี ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดฟรี นอกจากนี้ไปธนาคาร ไปโรงพยาบาลไปสถานที่มีคนใช้บริการจำนวนมากจะมีช่องพิเศษสำหรับผู้สูงอายุโดยไม่ต้องเข้าแถวยาว

อีเมลเพื่อนพี่ๆ ได้แนะนำเคล็ดลับหลายข้อซึ่งเป็นประสบการณ์ของตัวเอง เอาไปใช้ปฏิบัติการได้ มีพี่คนหนึ่งแนะนำว่า ต้องไม่อยากแก่และต้องแต่งตัวให้หล่อๆสวยๆทุกวัน พยายามให้ดูหนุ่มสาวขึ้นกว่าวัย เพราะเมื่อแต่งตัวดีแล้ว รู้สึกมีความมั่นใจและมีความสุข

ต้องมีใจที่เป็นหนุ่มสาว และหัดคิดแบบคนหนุ่มสาว ไม่คิดมาก ไม่วิตกกังวลเกินกว่าเหตุ อย่าไปโทษลูกหลานที่ไม่ประหยัดหรือใช้ชีวิตสบายเกินไป อย่าไปโทษสังคมไม่ยุติธรรม ต้องฝึกตนเองให้ปล่อยวางสิ่งที่กวนใจ เร้าใจ เศร้าเสียใจได้ ไม่คิดหนีปัญหา มองโลกในแง่ดี มีความหวังเสมอๆ

ต้องมีเพื่อนฝูงในสังคม และคบเพื่อนที่อายุน้อยกว่า อ่อนเยาว์กว่า จะทำให้ผู้สูงอายุได้ข้อมูลข่าวสารทันสมัยขึ้นและมีความคิดเป็นหนุ่มสาวขึ้น และมีความกระฉับกระเฉงมากขึ้น รวมทั้งลดการมองโลกในแง่ร้าย หรือซึมเศร้าให้น้อยลง

หากช่วยเลี้ยงหลาน แม้จะเหนื่อยกายก็ตาม แต่บรรยากาศที่บ้านจะมีความคึกคักมากขึ้นมีชีวิตชีวามากขึ้นและการเจริญเติบโตกับรอยยิ้มของเด็กๆจะสามารถชะลอการแก่ให้ผู้สูงอายุได้

นอกจากนี้ยังต้องลดความเครียด ที่คนเราแก่ก่อนวัยกันในทุกวันนี้ ก็เพราะเราเครียดกันเกินกว่าเหตุ ครอบครัวที่ไม่เข้าใจกัน มักจะเกิดความเครียด ครอบครัวที่รักผูกพันเข้าใจกัน มักจะมีความสุข คนเรายิ่งอายุมากขึ้นยิ่งรู้สึกถึงคุณค่าแห่งความรักของครอบครัว

ดังนั้นผู้สูงอายุที่ยังมีคู่ชีวิตอยู่ด้วยกัน ต้องทะนุถนอมความรักซึ่งกันและกัน และเอาใจใส่ต่อกัน เพราะความรักและความอบอุ่นของครอบครัวเป็นยาต้านความแก่ชราที่ดีที่สุดและสามารถเอาชนะอุปสรรคต่างๆให้ผ่านพ้นไปได้