นับตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นมา เมียนมาร์เดินหน้าใช้มาตรการปฏิรูปเศรษฐกิจมากมาย ซึ่งรวมถึงเปิดเสรีตลาดเทคโนโลยีและการสื่อสารอย่างค่อยเป็นค่อยไปด้วย ทำให้บริษัทตะวันตกหันมาสนใจตลาดเมียนมาร์มากขึ้น สำหรับบริษัททุนจีนที่อยู่ในเมียนมาร์เป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว จะทำอย่างไรจึงคงไว้ซึ่งกำลังการแข่งขันที่เข้มแข็งพอเพื่อรับมือกับการท้าทายจากเพื่อนร่วมอาชีพจากนานาประเทศ ซึ่งเป็นปัญหาใหม่ที่เผชิญอยู่ในขณะนี้
บริษัทหวาเหวยของจีน ในฐานะผู้ป้อนอุปกรณ์สื่อสารและเทคโนโลยีเทอร์มินัลรายเก่าในเมียนมาร์ ได้บุกและต่อยอดธุรกิจในเมียนมาร์เป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว นอกจากให้บริการสนับสนุนทางเทคโนโลยีเครือข่ายการสื่อสารในเมียนมาร์ ยังให้ความช่วยเหลือแก่บริษัทการสื่อสารท้องถิ่นของเมียนมาร์ด้วย นายเหริน เกิง ผู้จัดการใหญ่บริษัทหวาเหวย (เมียนมาร์) ระบุว่า เวลานี้บริษัทหวาเหวยมีสัดส่วนแบ่งตลาดเมียนมาร์มากถึงร้อยละ 45 เป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ด้านเครือข่ายการสื่อสารของเมียนมาร์ นอกจากนี้ โทรศัพท์มือถือยี่ห้อหวาเหวยมีสัดส่วนแบ่งตลาดโทรศัพท์มือถือมากถึงร้อยละ 70 ในเมียนมาร์ เนื่องจากราคาย่อมเยาว์และรูปทรงทันสมัย
เมียนมาร์ในฐานะประเทศที่เพิ่งเปิดเสรีทางเศรษฐกิจมาหมาดๆ กิจการสื่อสารและเครือข่ายยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น จึงกลายเป็น "เค้กก้อนใหญ่" ที่บริษัทต่างชาติส่วนใหญ่ล้วนจะอยากได้ นายเอริค ชมิดท์ ประธานกรรมการบริษัทกูเกิลสหรัฐอเมริกาเคยระบุขณะเยือนเมียนมาร์ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาว่า พร้อมกับการที่เมียนมาร์เปิดตลาดการลงทุนสำหรับต่างชาติ กิจการสื่อสารจะเป็น "กิจการที่ได้ผลกำไรมากที่สุด" ในเมียนมาร์ผู้ซึ่งเคยเป็นผู้โดดเดี่ยว สำหรับการแข่งขันและการท้าทายใหม่ที่กำลังจะเผชิญนั้น บริษัทหวาเหวยเห็นว่า นับเป็นโอกาสที่พบยากในช่วงหลายสิบปี นายเหริน เกิง ผู้จัดการใหญ่บริษัทหวาเหวย (เมียนมาร์) ระบุว่า ในมุมมองของหวาเหวย การที่เมียนมาร์เปิดเสรีการสื่อสารจะสร้างโอกาสมากกว่าการท้าทาย เพราะว่า บริษัทตะวันตกหลายรายมีความร่วมมือกับหวาเหวยเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว
อย่างไรก็ตาม นายเหริน เกิงระบุถึงการท้าทายต่างๆ ภายใต้สถานการณ์ใหม่ว่า เมียนมาร์ยังอ่อนเรื่องเงินทุน การบริหาร เทคโนโลยี และสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน แต่บริษัทหวาเหวยได้เตรียมพร้อมทุกอย่างอย่างเป็นระบบระเบียบ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาปริมาณการสื่อสารพุ่งชนเพดานในอนาคตข้างหน้า
(YING/LING)
