วันที่ 26 มีนาคมนี้ การปะทะทางศาสนาที่เกิดขึ้นในภาคกลางของเมียนมาร์เมื่อเร็วๆนี้ได้แพร่ระบาดถึงเขตชุมชนชาวมุสลิมที่เมืองบาโก ซึ่งห่างจากกรุงย่างกุ้งไปทางเหนือ 200 กิโลเมตร ซึ่งการปะทะทางศาสนาที่นับวันรุนแรงยิ่งขึ้นนั้นอาจส่งผลกระทบต่อกระบวนการปฏิรูปประชาธิปไตยของเมียนมาร์
คืนวันที่ 25 มีนาคมนี้ คนกลุ่มหนึ่งบุกเข้ามายังเมืองบาโกและทำลายมัสยิดแห่งหนึ่ง รวมถึงอาคารและร้านค้าหลายแห่ง ชาวท้องถิ่นระบุว่า มีอาคารถูกทำลายประมาณ 60 หลัง เหตุโจมตีดำเนินไปถึงประมาณตี 4 ของวันที่ 26 มีนาคม ส่วนตำรวจในอีกที่หนึ่งของเขตดังกล่าวระบุว่า เขตชุมชนชาวมุสลิมท้องถิ่นนั้นก็เกิดเหตุโจมตีเช่นกันในเวลา 5 ทุ่มครึ่งวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา และยืดเยื้อไปถึง 6 โมงเช้าวันถัดไป ภายหลังเหตุการณ์ เลขาธิการสมาคมมุสลิมเมียนมาร์ระบุว่า มีบ้านเรือนประมาณ 30 หลังและมัสยิด 1 แห่งถูกทำลาย ขณะที่มีข่าวระบุว่า คืนวันที่ 26 มีนาคม การโจมตียังคงดำเนินอยู่อย่างรุนแรง ตำรวจระบุว่า ยากที่จะควบคุมสถานการณ์ได้ แต่ยังไม่พบผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตในเขตดังกล่าว
คืนวันที่ 26 มีนาคมนี้ ทำเนียบประธานาธิบดีเมียนมาร์แสดงความกังวลต่อการต่อต้านชาวมุสลิมและเหตุโจมตีภายในประเทศที่แพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว โดยระบุว่า ถ้าไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ดังกล่าวได้โดยเร็ว ก็คงจะส่งผลกระทบต่อกระบวนการปฏิรูปภายในประเทศ ทำเนียบประธานาธิบดีประกาศแถลงการณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติว่า รัฐบาลจะใช้ความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อควบคุมเหตุการณ์ความรุนแรงในทุกรูปแบบ และยืนยันจะป้องกันไม่ให้เหตุโจมตีเหล่านี้ทวีความรุนแรงของข้อขัดแย้งชนเผ่ามากยิ่งขึ้น แถลงการณ์ระบุว่า ปัจจุบัน รัฐบาลกำลังดำเนินการปฏิรูปประชาธิปไตยและส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ประชาชนควรหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงและการเกลียดชังทางชนเผ่าในรูปแบบใดๆ เพราะทั้งนี้จะเป็นอุปสรรคต่อกระบวนการปฏิรูปประชาธิปไตยและการพัฒนาทางเศรษฐกิจของเมียนมาร์