เมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา การประชุมสุดยอดน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเมียนม่าร์จัดขึ้นที่กรุงย่างกุ้ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กรรมการผู้จัดการบริษัทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของเมียนม่าร์ ตลอดจนตัวแทนบริษัทน้ำมันของประเทศต่างๆ เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่เมียนม่าร์กล่าวว่า เมียนม่าร์วางแผนจะเปิดพื้นที่แหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในทะเลมากกว่า 20 แห่งก่อนเมษายนนี้ และเปิดประมูลให้บริษัทต่างประเทศ ขณะเดียวกัน จะทำการนำเข้าทุนและเทคโนโลยีจากต่างประเทศ และปรับปรุงการบริหารทรัพยากรน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ อาจจะพูดได้ว่า เมียนม่าร์มีการเพิ่มการนำเข้าทุนต่างชาติมากขึ้น
เจ้าหน้าที่เมียนม่าร์กล่าวว่า กระบวนการเปิดประมูลจะปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ระหว่างประเทศอย่างโปร่งใส จุดประสงค์ก็เพื่อให้ประชาชนเมียนม่าร์ได้รับประโยชน์โดยตรงจากการบริหารทรัพยากรธรรมชาติของรัฐบาลอย่างมีประสิทธิภาค
แต่รัฐบาลเมียนม่าร์ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของโครงการประมูลดังกล่าว เว็บไซต์ของกระทรวงพลังงานเมียนม่าร์ก็ยังไม่มีความคืบหน้าที่เกี่ยวข้อง ข่าวแจ้งว่า เนื่องจากมีความกังวลว่าวิสาหกิจเมียนม่าร์จะประสบความยากลำบากในด้านเทคโนโลยีและเงินทุน ดังนั้น รัฐบาลอาจจะอนุญาตให้วิสาหกิจต่างชาติลงทุนในพื้นที่แหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในทะเลน้ำลึกที่บุกเบิกยาก
เมียนม่าร์เคยเปิดประมูลพื้นที่แหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติบนบกเมื่อปี 2011 และเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เมียนม่าร์ก็เปิดประมูลอีกกว่า 18 แห่ง ส่วนการประมูลครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เปิดประมูลพื้นที่แหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในทะเล ดังนั้น มีแรงดึงดูดมาก
ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 เมียนม่าร์มีเหมืองแร่มากที่สุดในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปริมาณน้ำมันอยู่ร้อยละ 2 ของยอดปริมาณน้ำมันโลก ปัจจุบัน เมียนม่าร์มีปริมาณสำรองก๊าซธรรมชาติที่ได้รับการสำรวจแล้ว 1,180 ล้านลูกบาศก์ฟุต อยู่อันดับที่ 34 ของโลก ซึ่งเมียนม่าร์มีเขตพื้นที่ราบต่ำแอ่งกระทะริมฝั่งแม่น้ำ 17 แห่ง ปัจจุบัน ที่ลุ่ม 3 แห่งได้รับการบุกเบิกอย่างทั่วด้าน อีก 14 แห่งยังไม่สำรวจอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ พื้นที่ทางบกก็ยังไม่ได้รับการบุกเบิกอย่างทั่วด้าน ดังนั้น อันดับปริมาณสำรองน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของเมียนม่าร์อาจจะเพิ่มขึ้นอีกก็เป็นได้
Ton/kt