เจ้าหน้าที่เมียนมาร์ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์อีเลเวน นิวส์ว่า "แม้ว่าการเจรจาครั้งนี้ไม่ใช่เป็นแบบทางการ แต่นับว่าเป็นการเจรจาระดับสูงพอสมควร เพราะมีเจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนเข้าร่วมเป็นคนกลางประสานทั้งสองฝ่าย เจ้าหน้าที่ฝ่ายจีนมาจากกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และมณฑลยูนนาน"
นายอู ลา นัน โฆษกองค์การเพื่อเอกราชคะฉิ่นให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวบีบีซีเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์นี้ว่า เนื่องจากมีความวิตกกังวลว่าสงครามกลางเมืองเมียนมาร์จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงบริเวณชายแดนจีน-เมียนมาร์ รัฐบาลจีนจึงเป็นเจ้าภาพจัดการเจรจาสันติภาพครั้งนี้ สิ่งที่แตกต่างจากครั้งก่อนๆ คือ ไม่ใช่ทางการมณฑลยูนนานเป็นเจ้าภาพ แต่รัฐบาลจีนเป็นเจ้าภาพ และยังไม่ทราลส่วนรายละเอียดของการเจรจาแต่อย่างใด
อนึ่ง สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า องค์การเพื่อเอกราชคะฉิ่นระบุในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งว่า รัฐบาลจีนจะ "เป็นสักขีพยานของการเจรจาสันติภาพครั้งนี้ และเป็นผู้ไกล่เกลี่ยด้วย" ส่วนองค์การของอีก 2 ชนเผ่าที่บรรลุข้อตกลงหยุดยิงกับรัฐบาลก่อนหน้านี้ ก็จะจัดส่งผู้แทนเข้าร่วมการเจรจาสันติภาพครั้งนี้ด้วย เพื่อช่วยให้การเจรจาเป็นไปอย่างราบรื่น
นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปี 2011 เป็นต้นมา ผู้แทนกองทัพเอกราชคะฉิ่นกับรัฐบาลเมียนมาร์เคยจัดการเจรจาที่เมืองรุ่ยลี่มาแล้ว 3 รอบ สองฝ่ายเคยพบกันไม่น้อยกว่า 8 ครั้ง แต่ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิงถาวร
นักวิเคราะห์เห็นว่า มีความเป็นไปได้ที่การเจรจาครั้งนี้จะผ่อนคลายสถานการณ์ตึงเครียดในทางภาคเหนือของเมียนมาร์ แต่จะบรรลุซึ่งข้อตกลงหยุดยิงถาวรนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะจุดยืนของสองฝ่ายยังคงแตกต่างกันไม่น้อย ฝ่ายรัฐบาลต้องการให้ลงนามข้อตกลงหยุดยิงก่อน แต่ฝ่ายคะฉิ่นต้องการให้พูดคุยแผนการยุติทางการเมืองให้เรียบร้อยก่อน นอกจากนี้ แม้ว่าสองฝ่ายได้ดำเนินการเจรจาสันติภาพแล้ว แต่ชาวท้องถิ่นคะฉิ่นระบุว่า เวลานี้ ยังคงมีการสู้รบกันอย่างต่อเนื่องในบริเวณพื้นที่ผาก้านและพื้นที่อื่นๆ ของรัฐคะฉิ่น
(YING/LING)