ภาพ1.เมืองหย่าอันเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง
ภัยธรรมชาติครั้งนี้ ทำให้ประชาชนทั่วประเทศจีนพากันให้ความสนใจและเอาใจใส่ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว ซึ่งทางรัฐบาลจัดส่งกองทหารบรรเทาภัยไปยังเมืองหย่าอันทันที ส่วนองค์กรภาคเอกชนและวิสาหกิจต่างๆ เช่น สภากาชาด บริษัทรถยนต์ขนาดใหญ่และกองทุนต่างๆ พากันบริจาคเงินและสิ่งของช่วยเหลือบรรเทาภัยให้อย่างเร่งด่วนที่สุดเท่าที่ทำได้ นอกจากนี้ ยังมีอาสาสมัครมืออาชีพอีกจำนวนมากช่วยขนส่งสิ่งของช่วยเหลือและยารักษาโรคไปยังพื้นที่ดังกล่าว อีกทั้งชาวจีนทั่วประเทศยังมีความห่วงใยต่อเพื่อนร่วมชาติที่ประสบเคราะห์ร้ายครั้งนี้ด้วย
เมื่อปี 2008 เคยเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงที่เขตเวิ่นชวนมาแล้ว ทำให้ที่นี่ถูกระบุว่าเป็นมณฑลที่เกิดภัยธรรมชาติบ่อยครั้งที่สุดแห่งหนึ่งของจีน และปีหลังๆ มานี้ นอกจากมณฑลเสฉวนแล้ว ในพื้นที่อื่นของจีนและต่างประเทศ ก็ได้เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขึ้นหลายครั้ง ทำให้ชาวจีนและชาวโลกต้องให้ความสำคัญต่อภัยธรรมชาติมากขึ้น ทั้งต้องเพิ่มความรู้และความสามารถในการหลีกเลี่ยงภัยและช่วยเหลือตนเองขณะเกิดภัย เพื่อให้สามารถเอาชีวิตรอดได้จากภัยพิบัติชนิดต่างๆ วันนี้ เราจึงจะมาแนะนำวิธีการป้องกันและช่วยเหลือตนเองในขณะเกิดภัยแผ่นดินไหวให้ท่านผู้ฟังรับทราบ
ภาพ2- วิธีการป้องกันและช่วยเหลือตนเองในขณะเกิดภัยแผ่นดินไหว
การมีความรู้ในการป้องกันตนเองขณะเกิดแผ่นดินไหวมีความสำคัญมาก โดยความรู้พื้นฐานที่จำเป็นต้องจดจำไว้ให้ดีคือ เมื่อเกิดแผ่นดินไหว อย่าเพิ่งรีบวิ่งหนีไปจนไม่รู้ทิศรู้ทาง ควรหยุดนิ่ง หมอบหรือนั่งลง พยายามลดร่างกายลงในระดับต่ำ ควรจับเครื่องเรือนหรือสิ่งของที่มั่นคงและแน่นหนาให้ดี ขณะเดียวกัน ต้องพยายามปกป้องส่วนของศรีษะ คอ ตา และปิดปากไม่ให้ดูดฝุ่นละอองเข้าสู่ปอดและทางเดินหายใจ นอกจากนี้ ยังต้องหลีกเลี่ยงฝูงชน ไม่ให้เกิดการเบียดเสียด ไม่ควรทำให้เกิดประกายไฟ เพราะหากแก๊สหรือวัตถุไวไฟรั่วซึม อาจเกิดเพลิงไหม้และ ไฟลวกตามมาได้
นอกจากนี้ ยังต้องปฏิบัติตามหลัก 3 ประการ คือ
1. ปฏิบัติตามสภาพความเป็นจริงของสถานที่เกิดแผ่นดินไหว หมายถึงต้องทราบว่าตนอยู่ในบ้านชั้นเดียวหรืออยู่ในอาคารสูงหลายชั้น ภัยแผ่นดินไหวเกิดขึ้นในกลางวันหรือกลางคืน บ้านอยู่อาศัยสร้างขึ้นด้วยวัสดุอะไร ภายในบ้านมีที่หลบหนีหรือไม่ จุดที่อยู่ห่างจากประตูหรือไม่ และเขตนอกบ้านกว้างใหญ่หรือไม่
2.อย่าลังเลใจขณะหลบหนีภัย ถ้าวิ่งหนีออกจากบ้านแล้ว อย่ากลับไปอีกอย่างเด็ดขาด
3. หมอบตัว อย่าเพิ่งวิ่งหนีออกจากห้องทันที รอแผ่นดินไหวหยุดลงแล้วค่อยหาทางที่ถูกต้องหนีออกไป จะเพิ่มอัตราการรอดชีวิตได้มาก
ขณะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง อย่างหวาดกลัว ควรพยายามตั้งสติและแสวงหาวิธีการรอดชีวิตที่ได้ผลที่ดีที่สุด เพราะว่าเมื่อเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง จากวินาทีที่เรารู้สึกถึงตกใจจนถึงสิ่งก่อสร้างถูกทำลาย มีเวลาโดยเฉลี่ยประมาณ 12 วินาที ดังนั้น จึงไม่มีเวลาให้ลังเลใจ ถ้าอยู่ในบ้านชั้นเดียว ควรรีบวิ่งออกไปทันที แต่ถ้าอยู่ในอาคารสูงหลายชั้น อย่ากระโดดจากหน้าต่างเป็นอันขาด ควรรีบปิดสวิตช์ไฟและแก๊สทันที และซ่อนตัวในจุดที่มีพื้นที่ขนาดเล็ก เช่นห้องน้ำ ห้องครัว ใต้โต๊ะหรือใต้เตียง รอแผ่นดินไหวหยุดแล้วจึงค่อยรีบหนีออกจากบ้าน เพื่อหลีกเลี่ยงอาฟเตอร์ช๊อก
ภาพ3-อย่ากระโดดจากหน้าต่างเป็นอันขาด
ถ้าอยู่ในสถานที่ที่มีคนมาก เช่นโรงเรียน ห้างสรรพสินค้าหรือโรงภาพยนตร์ ควรขดตัวอยู่ใต้สิ่งของที่มีความแข็งแรง รอแผ่นดินไหวสงบแล้วรีบออกไปข้างนอกตามระบบระเบียบ สำหรับในโรงเรียน ผู้นำและครูควรเพิ่มความรู้เกี่ยวกับการป้องกัน หลีกเลี่ยงและช่วยเหลือตนเองขณะเกิดแผ่นดินไหวให้นักเรียนรู้ล่วงหน้า เช่นเส้นทางการอพยพและสถานที่ปลอดภัย เมื่อเกิดแผ่นดินไหว ต้องควบคุมให้นักเรียนหนีออกจากอาคารเรียนอย่างมีระเบียบ ห้ามปล่อยให้นักเรียนไปมาจากการตกใจและไม่ดูทาง และห้ามนักเรียนกระโดดจากหน้าต่างเด็ดขาด
ถ้ากำลังอยู่บนถนน ควรใช้มือหรือถือประเป๋าปกป้องศรีษะ รีบวิ่งออกไปให้ไกลจากอาคารต่างๆ เพราะเศษกระจก ก้อนคอนกรีต หรือป้ายโฆษณาอาจหล่นลงจนทับเอาได้ นอกจากนี้ ยังต้องวิ่งหนีจากเสาไฟฟ้าและกำแพง วิ่งไปยังพื้นที่กว้างๆ ถ้าอยู่ในชานเมือง ควรไปไกลจากเนินเขา หน้าผา ริมฝั่งแม่น้ำหรือทะเล และสายไฟแรงสูง ส่วนรถยนต์และรถไฟที่กำลังวิ่งอยู่ควรรีบจอดรถทันที ผู้โดยสารควรจับเก้าอี้ หรือมือจับที่ติดตั้งกับตัวรถให้มั่นคง และป้องกันไม่ให้กระเป๋าหล่นลงมาใส่ ถ้าหากว่าถูกฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพัง ควรพยายามตั้งสติและหาวิธีช่วยเหลือตนเอง เมื่อไม่สามารถเอาตัวรอดได้จริง ควรพยายามสะสมกำลัง หาน้ำและอาหาร และรอความช่วยเหลืออย่างอดทนและมีความมั่นใจในตนเอง
ภาพ4-ควรรอความช่วยเหลืออย่างอดทนและมีความมั่นใจในตนเอง