หนังสือพิมพ์เหรินหมินรึเป้ารายงานว่า ตามถนนของประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เช่น ไทย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ สภาพที่มักจะได้พบเห็นคือ มีชาวฝรั่ง หรือชาวญี่ปุ่นพักสบายๆ ในร้านกาแฟยุโรป หรือบาร์ญี่ปุ่น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ

เจ้าหน้าที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า หลายปีมานี้ เนื่องจากไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ให้บริการดี และราคาถูก มีคนชราชาวยุโรป และญี่ปุ่นใช้ชีวิตในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น

ยกตัวอย่างเช่นคนชราญี่ปุ่น สามีภรรยาญี่ปุ่นคู่หนึ่งที่เกษียณแล้วได้รับเบี้ยเลี้ยง150,000เยน และ70,000 เยนตามลำดับ ถ้าอยู่กรุงโตเกียว สามีภรรยาสามารถเช่าบ้านเล็กๆ เท่านั้น แต่ถ้าย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ ใช้เงินเดือนละ 35,000 บาทก็จะเช่าบ้านแบบ 2 ห้องนอนได้ในตัวเมือง นอกจากค่าครองชีพประมาณ 20,000 บาทแล้ว แต่ละเดือนสามีภรรยาคู่นี้ยังเก็บได้ 20,000 กว่าบาท

ตั้งแต่ปี 1996 รัฐบาลมาเลเซียเริ่มดำเนิน "โครงการผู้สูงอายุ" คือออกวีซ่าพิเศษสำหรับชาวต่างชาติที่เกษียณแล้ววาระ 10 ปี เข้าออกเมืองได้หลายครั้ง ปี 2002 ที่ผ่านมา โครงการนี้มีการปรับเงื่อนไขคือชาวต่างชาติอายุ 21 ปีขึ้นไปก็ขอวีซ่าประเภทนี้ได้ มาเลเซียให้บริการแบบครบวงจรในจุดเดียว (one stop service) สำหรับชาวต่างชาติที่อยู่มาเลเซียระยะยาว นอกจากนี้ยังประกาศใช้นโยบายสนับสนุนให้ซื้อบ้านได้ด้วย

ส่วนรัฐบาลไทยได้ออกวีซ่าผู้เกษียณด้วย ตามนโยบายนี้ ชาวต่างชาติที่มีอายุ 50 ปีขึ้น ไม่เคยกระทำความผิดใดๆ และมียอดเงินฝากในบัญชีสูงกว่า 800,000 บาท หรือมีรายได้มากกว่า 65,000 บาทต่อเดือน ก็ขอวีซ่าประเภทนี้ได้ แต่รัฐบาลไทยกำหนดว่าชาวต่างชาติที่ขอวีซ่าประเภทนี้ทำงานในเมืองไทยไม่ได้เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบถึงการหางานทำภายในประเทศ

(nune/cici)