การผลิตในจีนเป็นที่รู้จักกันดีในทั่วโลก แต่หลายปีมานี้ บริษัทข้ามชาติทยอยกันให้ความสำคัญต่อตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตามผลสถิติจาก "รายงานเกี่ยวกับการลงทุนของโลกประจำปี 2012" ที่การประชุมการค้าและการพัฒนาแห่งสหประชาชาติได้ประกาศเมื่อเร็วๆ นี้แสดงให้เห็นว่า ปี 2011 ต่างประเทศไปลงทุนที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยตรงคิดเป็น 117,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเติบโตขึ้น 26% เมื่อเทียบกับปี 2010 แต่อัตราเติบโตด้านการผลิตของจีนกลับมีไม่ถึง 8%

ด้วยเหตุนี้ จึงมีความคิดเห็นว่า การผลิตของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว ซึ่งในอนาคตอาจจะแซงหน้าการผลิตของจีน

ความคิดเห็นดังกล่าวนี้มีคนเห็นด้วย แต่ก็มีคนไม่เห็นด้วยเช่นกัน รายงานตรวจสอบประจำปี 2012 ของการประชุมการค้าและพัฒนาแห่งสหประชาชาติฉบับหนึ่งแสดงให้เห็นว่า ในรายชื่อประเทศที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของบริษัทข้ามชาตินั้นแสดงให้เห็นว่า อันดับของไทยกับอินโดนีเซียได้ขึ้เลื่อนขยับสูงขึ้นจากเดิมอย่างมาก รายงานฉบับนี้เห็นว่า เนื่องจากประเทศเอเชียตะวันออก โดยเฉพาะในจีน อัตราต้นทุนการผลิตและเงินเดือนมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ประเทศต่างๆ ในอาเซียนมีกำลังแข่งขันเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทต่างประเทศบางบริษัทที่เดิมลงทุนในเขตชายฝั่งทะเลของจีนเริ่มย้ายไปประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีบริษัทต่างประเทศอีกจำนวนหนึ่งย้ายไปเขตแผ่นดินชั้นในของจีน

เนื่องจากต้นทุนของแรงงาน เงินทุนและอัตราแลกเปลี่ยนของจีนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ปัจจัยเดิมที่ดึงดูดเงินทุนจากต่างประเทศกำลังหายไป ซึ่งเป็นเหตุทำให้บริษัทข้ามชาติบางบริษัทย้ายไปลงทุนในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

บริษัทที่ย้ายไปประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น ก็มีบริษัททุนจีนด้วย อย่างบริษัทเสื้อผ้าเจิ้งโจวจำกัดของจีนก็ได้ย้ายไปที่กัมพูชา นายเจิ้ง เซิ่งจง ผู้จัดการบริษัทเสื้อผ้าเจิ้งโจวจำกัดให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า การย้ายบริษัทไปที่กัมพูชาก็เพราะว่าค่าจ้างแรงงานในจีนแพงขึ้น ตอนนี้บริษัทส่งเสื้อผ้าที่มีมูลค่า 10,000 หยวนไปที่ประเทศสหภาพยุโรป ต้นทุนของการผลิตในจีนแตกต่างกับการผลิตในกัมพูชา อย่างเช่น ภาษีนำเข้าของอิตาลีมีมาตรฐานสองอย่าง ก็คือประเทศมีภาษีพิเศษกับประเทศไม่มีภาษีพิเศษ หากในประเทศจีนผลิตกางเกงตัวหนึ่งที่มีต้นทุน 10 เหรียญสหรัฐฯ ส่งออกไปอิตาลี อิตาลีจะเก็บภาษีนำเข้า 12.5% ฉะนั้นราคาต้นทุนของกางเกงตัวนี้ที่รวมค่าภาษีเข้าไปด้วยแล้วจะเป็น 11.25 เหรียญสหรัฐฯ แต่หากผลิตกางเกงตัวนี้ที่กัมพูชา อิตาลีไม่เก็บภาษีนำเข้าจากกัมพูชา เมื่อส่งออกไปขายยังอิตาลี ต้นทุนของกางเกงตัวนี้จะยังคงแค่ 10 เหรียญสหรัฐฯ สรุปแล้วก็คือเมื่อย้ายบริษัทไปกัมพูชา ต้นทุนจะลดน้อยลง 10%