ระหว่างบรรทัด:นักท่องเที่ยวจีน ตลาดสำคัญของการท่องเที่ยวที่ทั่วโลกต้องการ (ตอนที่ 2)
  2014-02-21 16:23:45  cri

สัปดาห์ที่แล้วว่าด้วยเรื่อง นักท่องเที่ยวจีน ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักเนื้อหอม ที่นานาชาติให้ความสนใจและจับจ้องมองเพื่อเชิญชวนให้ไปเที่ยวประเทศของตัวเอง เพราะนั่นหมายถึงรายได้มหาศาลที่จะเกิดขึ้นจากธุรกิจการท่องเที่ยว ทั้งการเดินทาง ที่พักอาหาร โดยเฉพาะการช็อปปิ้งจับจ่ายซื้อของ ซึ่งชาวจีนก็ติดอันดับต้นๆของโลกที่มีกำลังซื้อสูงมาก และได้เล่าไปแล้วว่า มีการสำรวจข้อมูลว่า สถานที่หรือประเทศไหนบ้างที่ชาวจีนให้ความสนใจไปท่องเที่ยวกันมาก โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสำคัญของแต่ละปีที่มีวันหยุดยาวมากเป็นพิเศษนานนับสัปดาห์ อันได้แก่ วันตรุษจีน ประมาณเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์

หากจะพิจารณาว่า อะไรเป็นสาเหตุเอื้อให้ชาวจีนเดินทางไปต่างประเทศได้มากขึ้นและสะดวกขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับในอดีต จะพบว่าปัจจัย ต่างๆได้แก่

1. เศรษฐกิจจีนที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ชนชั้นกลางในเมืองมีรายได้เพิ่มมากขึ้น ขณะที่รัฐบาลจีนพยายามรักษาระดับค่าเงินหยวนทำให้ยังไม่ผันผวนมากนักเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ และค่าเงินแข็งขึ้น ทำให้ชาวจีนมีรายได้เพิ่มขึ้น สามารถไปจับจ่ายใช้สอยในต่างประเทศได้มากขึ้น

2. รัฐบาลจีนผ่อนปรนนโยบายการเอาเงินออกนอกประเทศ และเปิดให้ชาวจีนเดินทางไปต่างประเทศได้มากขึ้น ทำให้คนที่มีเงินเพียงพอก็สามารถเดินทางได้ไม่ยากลำบากเหมือนเช่นในอดีตที่ผ่านมา

3. การขยายตัวทางด้านคมนาคมขนส่ง ตอนนี้รถไฟความเร็วสูงในประเทศจีนขยายครอบคลุมเมืองหลักๆ ทั่วประเทศแล้วจากเหนือจรดใต้และตะวันออกจรดตะวันตกรวมเป็นเส้นทางหลัก 8 สาย เชื่อมหัวเมืองน้อยใหญ่ต่างๆในประเทศ ทำให้การเดินทางภายในประเทศสะดวกมากขึ้น อีกทั้งรัฐบาลจีนมีแผนเชื่อมต่อเส้นทางคมนาคมกับประเทศอาเซียนเพื่อนบ้านรอบข้าง ทั้ง นอกจากนี้ยังขยายเส้นทางถนน และเปิดสายการบินตรงไปยังเมืองต่างๆในประเทศอาเซียนเพิ่มขึ้นนอกเหนือจากเมืองหลวงหลักๆ เช่น ไทย มีเที่ยวบินตรงจาก ปักกิ่งไปเชียงใหม่ เป็นต้น และมียังมีบินตรงไปเมืองต่างๆในมาเลเซียและอินโดนีเซียด้วย

4. การขยายตัวและเติบโตของอินเตอร์เน็ตกว้างขวางขึ้น ขณะนี้ มี ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตในประเทศจีน กว่า 590 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นหนุ่มสาวชาวจีนรุ่นใหม่ ที่มี การศึกษาดีขึ้น เป็นนักท่องเน็ต เข้าถึงการสื่อสารสมัยใหม่โดยใช้สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และอุปกรณ์อื่นๆ ค้นหาข้อมูลได้อย่างสะดวกง่ายดาย

อินเตอร์เนต ได้มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนโฉมหน้าชาวจีนหลายเรื่อง นอกเหนือจากด้านเศรษฐกิจที่ทำให้การขายสินค้าออนไลน์รวมทั้งธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเช่นการขนส่งไปรษณีย์เติบโตอย่างก้าวกระโดดแล้ว ยังทำให้รูปแบบการท่องเที่ยวเปลี่ยนไปอย่างมากด้วยเช่นกัน

ชาวจีนรุ่นใหม่หันมาให้ความนิยมการเดินทางด้วยตัวเองมากขึ้น แทนการพึ่งพาบริษัท ทัวร์หรือไปเป็นกลุ่มอย่างเช่นในอดีต เพราะสามารถค้นหาข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว ประเทศที่ต้องการเดินทาง แผนที่เส้นทางต่างๆ รวมทั้งการจองที่พัก โรงแรม ซื้อตั๋วโดยสาร เช่ารถ แม้กระทั่งการจองร้านอาหารทางออนไลน์ล่วงหน้า (ซึ่งก็มักจะมีโปรโมชั่นหรือราคาที่ลดกว่าการเข้าไปจองด้วยตัวเอง) ทำให้มั่นใจได้ว่าจะได้รับความสะดวกตลอดการเดินทาง และสามารถวางแผนล่วงหน้าแต่เนิ่นๆ ได้

ยิ่งไปกว่านั้น ขณะนี้มีกระแสใหม่ สำหรับผู้ที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์เช่น เฟสบุ๊คส์ ไลน์ อินสตาร์แกรม นิยมโพสต์รูปภาพ สถานที่ต่างๆที่ตัวเองไปท่องเที่ยวมาแบ่งปันให้คนอื่นๆได้รู้ บ้างก็เขียนบทความหรือข้อมูลลงในบล็อคและเวปไซต์ ข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลสำคัญที่นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่หลายคนใช้ประกอบการตัดสินใจวางแผนการท่องเที่ยวของตัวเอง

รูปแบบการท่องเที่ยวของชาวจีนที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นการเที่ยวด้วยตัวเองมากขึ้น อีกปัจจัยหนึ่งเป็นผลมาจาก เดือนตุลาคมปลายปีที่แล้ว รัฐบาลจีนประกาศกฎหมายใหม่เพื่อจัดการกับบริษัททัวร์ที่หลอกลวงและเอาเปรียบนักท่องเที่ยวโดยขายทัวร์ในราคาต่ำมากๆเพื่อแย่งชิงลูกค้า บางครั้งราคาก็ถูกจนกระทั่งไม่น่าเชื่อว่าจะจัดได้ เพราะถูกกว่าต้นทุนจริง แต่ภายหลังระหว่างเดินทางจะไปเพิ่มค่าใช้จ่ายอื่นๆ ทำให้ลูกค้าต้องจ่ายเงินมากขึ้น หรือพาไปช็อปปิ้งในย่านร้านต่างๆที่ตกลงกันไว้ล่วงหน้า ให้ลูกทัวร์ซื้อสินค้าราคาแพงและอาจด้อยคุณภาพ คนไทยอาจจะเคยได้ยินข่าว "ทัวร์ศูนย์เหรียญ" หรือการละทิ้งลูกทัวร์ระหว่างทาง ก่อนหน้านี้

 กฎหมายการท่องเที่ยวใหม่ของจีน เข้มงวดกับบริษัททัวร์โดยห้ามบังคับลูกทัวร์ซื้อสินค้าและบริการเพิ่มจากราคาที่ประกาศในแพ็คเก็จ อีกทั้งกำหนดราคาขั้นต่ำของทัวร์ไว้ หากใครฝ่าฝืน โทษปรับหนักตั้งแต่ 3 หมื่น-3แสนหยวน (ประมาณ 1.5 ล้านบาท) และยึดใบอนุญาต

ผลที่ติดตามมาทันทีคือ บริษัททัวร์ต้องเพิ่มราคาให้สูงขึ้น บางเส้นทางสูงขึ้นเป็นสองเท่าตัว ทำให้ลูกค้าต้องจ่ายเพิ่ม ซึ่งหลายคนอาจไม่ชอบใจ ดังนั้น คนที่สามารถเดินทางเองได้ ไม่มีข้อจำกัดเรื่องภาษา หรือมีข้อจำกัดน้อย ก็เลือกที่จะไม่ใช้บริการทัวร์อีกต่อไป

5. การอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีน จนถึงขณะนี้ มี 45

ประเทศ ที่ยกเว้นวีซ่าให้กับจีน โดย 35 ประเทศและภูมิภาค เช่น มัลดีฟส์ เวียดนาม ฯลฯ อนุญาตให้นักท่องเที่ยวจีนทำวีซ่าได้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ส่วนของไทย ล่าสุด เมื่อวันที่วันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยประจำเมืองคุนหมิงประกาศว่า นักท่องเที่ยวจีนจะขอรับวีซ่า ณ ด่านตรวจคนเข้าเมืองของไทยได้แล้ว

ทั้งหมดเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการเดินทางไปท่องเที่ยวของชาวจีนที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ มีการประเมินว่าจำนวนชาวจีนที่เดินทางไปต่างประเทศอาจจะเกิน 100 ล้านคนในปี พ.ศ. 2563 เป็นตัวเลขที่ไม่อาจมองข้ามไปได้อย่างง่ายๆ หากมองในเชิงเศรษฐกิจ แต่ก็ยังมีปัจจัยเงื่อนไขด้านอื่นๆที่ต้องคำนึงถึงด้วยเช่นกัน เพื่อให้เกิดความสมดุลและไม่ส่งผลกระทบด้านอื่นๆ อาทิ สิ่งแวดล้อม และในภาพรวม

เพราะก่อนหน้านี้ เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์และสำนักข่าวซินหวา รายงานข่าวการที่นักท่องเที่ยวจีนกำลังเห่อ นิยมแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ โดยไปยังภูมิภาคแอนตาร์กติก หรือขั้วโลกใต้ ไปเยี่ยมชมสถานีแอนตาร์กติกเกรตวอลล์ (Antarctic Great Wall Station) ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะคิงจอร์จใกล้กับชิลีในช่วงวันหยุดตรุษจีน แต่เนื่องจากมีจำนวนลูกทัวร์มากนับร้อยคน ทำให้เกิดความวิตกกังวลว่า ทัวร์ลักษณะนี้จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่มีความอ่อนไหวในพื้นที่ดังกล่าว

มีรายงานว่า แหล่งท่องเที่ยวขั้วโลกใต้มีจีนเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดชาติหนึ่ง กว่า 2,300 คนได้ไปเยือนดินแดนนี้มาแล้วในช่วงเดือนพ.ย. 2554-มี.ค. 2555

พฤติกรรมการท่องเที่ยวของชาวจีนที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครและหลายๆครั้งก็ไม่ได้ยึดถึอธรรมเนียมปฏิบัติของสถานที่ไปเยือน ทำให้มีเสียงตำหนิและท้วงติงจากนานาชาติ ทำให้พร้อมๆกับกฎหมายการท่องเที่ยวที่ออกมาควบคุมบริษัททัวร์นั้น ก็มีคู่มือการปฏิบัติตัวของนักท่องเที่ยวจีนอย่างมีอารยะด้วย โดยกำหนดละเอียดถึงสิ่งที่ควรและไม่ควรปฏิบัติในการไปเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ เช่นไม่บ้วนน้ำลาย ไม่แคะจมูกในที่สาธารณะ ไม่ฉี่ในสระ ไม่ขโมยเสื้อชูชีพที่เป็นที่ระลึกจากเครื่องบิน ไม่กินเสียงดัง เล็มขนจมูกให้เรียบร้อย และไม่แคะฟันด้วยนิ้ว อีกทั้งแนะนำให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนั้นๆ เป็นต้น ซึ่งคู่มือดังกล่าวก็ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในสังคมชาวเน็ตจีนในเวลาต่อมา

พฤติกรรมการท่องเที่ยวในต่างประเทศของชาวจีนเปลี่ยนโฉมหน้าไปหลายเรื่อง หนังสือพิมพ์ เฉียนเจีงหวั่นเป้า (Qianjiang Evening News) ได้ประมวลข้อมูลในปี พ.ศ.2556 พบว่าในปี ค.ศ. 2013 นักท่องเที่ยวจากเมืองขนาดกลางและขนาดเล็กกลายเป็นกำลังสำคัญ ที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แทนที่จะมีเฉพาะจากเมืองใหญ่เหมือนในอดีต และเพิ่มมากกว่าเมืองหลัก เช่นปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว และเซินเจิ้น ฯลฯ โดยมาจากพื้นที่มณฑลทางขนาดกลางและเมืองขนาดเล็กในภาคกลางหรือภาคตะวันตกของจีนแทนที่เมืองใหญ่ในภาคตะวันออก

นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวจีนยังให้ความสำคัญกับอาหารการกินมากขึ้น รวมทั้งการช็อปปิ้งและจับจ่ายซื้อของ มีรายงานว่า นักท่องเที่ยวจีน จะใช้เงินประมาณ 40% ไปซื้อของ เช่นของที่ระลึก สิ่งของฟุ่มเฟือย เป็นต้น

โสภิต หวังวิวัฒนา เรียบเรียง

ภาพประกอบจาก english.cntv.cn   www.china.org.cn

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040