ระหว่างบรรทัด: ปัญหาการก่อการร้าย ความท้าทายของรัฐบาลจีน
  2014-05-16 16:46:30  cri

เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา ศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์ระหว่างประเทศกับความมั่นคง ของสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ร่วมกับ สำนักพิมพ์ผลงานด้านวิทยาศาสตร์สังคมของจีน ได้เผยแพร่ "รายงานความมั่นคงแห่งชาติจีน 2014" หรือ"สมุดปกน้ำเงิน

ความมั่นคงแห่งชาติจีน" ระบุว่า ปีที่แล้ว (2013) ทั่วโลกมีแนวโน้มการก่อการร้ายเพิ่มขึ้น ส่วนการก่อการร้ายในจีนก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยมีเหตุก่อการร้ายมากกว่า 10 ครั้ง และใช้รูปแบบและกลวิธีใหม่ๆ เพิ่มขึ้นด้วย แต่อาวุธยังคงเป็นเครื่องมือที่ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน เช่น มีดและดาบ

รายงานกล่าวว่า เป้าหมายที่ กลุ่มก่อการร้ายต้องการก่อกวนคือหน่วยงานของรัฐบาลและสถานีตำรวจ นอกจากนี้ยังมีเครือข่ายที่เชื่อมโยงกับต่างประเทศด้วย และมีการยกระดับความรุนแรงเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระยะหลังจะพบว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุได้เบนเป้าหมายไปยังสถานที่ย่านชุมชนซึ่งมีคนพลุกพล่าน เช่น สถานีรถไฟ เป็นต้น อีกทั้งมุ่งให้มีพลเรือนและประชาชนที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ การก่อการร้ายระยะหลังได้ขยายขอบเขตออกนอกพื้นที่เขตปกครองตนเองซินเจียง ไปยังภูมิภาคอื่นๆ เพิ่มขึ้นด้วย

ดังนั้น จึงมีข้อเสนอ ตั้งคณะกรรมการเพื่อความมั่นคงแห่งชาติจีน โดยมีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาเข้าร่วมปฏิบัติงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะลำพังตำรวจทำงานเป็นหน่วยเดียวอาจไม่เพียงพอ อีกทั้งต้องการแรงสนับสนุนจากประชาชนในระดับรากหญ้า ลงลึกถึงชุมชนในการให้ข้อมูลข่าวสาร รายงานความเคลื่อนไหวเ นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอเรื่องการสร้างกลไกการเตือนภัยและเฝ้าระวัง

รายงานความมั่นคงแห่งชาติจีนจะมีการประกาศเป็นประจำทุกปี เพื่อประเมินทบทวนสถานการณ์ในรอบปีที่ผ่านมาและให้ข้อเสนอแนะ

นับแต่ต้นปี 2014 ที่ผ่านมา ระยะเวลาไม่ถึงครึ่งปี ปรากฎว่า มีการก่อเหตุที่ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตหลายครั้ง ดังนี้

24 มกราคม เกิดระเบิดในอำเภอซินเหอ ของเขตปกครองตนเองชนชาติอุยกูร์

ซินเจียง ทางการจีนแถลงว่าเป็นเหตุก่อการร้ายที่วางแผนและเตรียมตัวไว้ล่วงหน้าตั้งแต่เดือนพ.ค. 2013 มีสมาชิกในกลุ่ม 17 คน เคยจัดกิจกรรมทางศาสนาอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมายหลายครั้ง พวกเขาผลิตระเบิดเองและขี่รถจักรยานยนต์ไปก่อเหตุ

14 กุมภาพันธ์ เกิดเหตุก่อการร้ายในอำเภอ อูสือซินเกียง เมืองอัคซูเขตปกครองตนเองชนชาติอุยกูร์ ซินเจียง ทางการจีนแถลงว่า คนร้ายเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางศาสนา มีการเตรียมฝึกซ้อมทำระเบิด ตระเตรียมอาวุธและฝึกการก่อการร้ายมาตั้งแต่เดือน กันยายน ปี 2013 เมื่อถึงต้นปี เดือนมกราคม ได้เตรียมยานพาหนะและทดลองการระเบิดหลายครั้งก่อนจะโจมตีรถลาดตระเวนของตำรวจ

1 มีนาคม เกิดเหตุสะเทือนขวัญ คนร้ายทั้งชายและหญิง 8 คน ใช้มีดไล่แทงคนที่สถานีรถไฟคุนหมิง มณฑลยูนนาน ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 29 คน บาดเจ็บอีก 143 คน

30 เมษายน เกิดเหตุลอบวางระเบิดที่สถานีรถไฟในเมืองอุรุมชี เมืองเอกของเขตปกครองตนเองชนชาติอุยกูร์ ซินเจียง มีผู้เสียชีวิต 3 คน (คนร้าย 2 พลเรือน 1 คน) และบาดเจ็บอีก 79 คน

เหตุการณ์ครั้งนี้ ถือว่าท้าทายมากเพราะเกิดขึ้นในช่วงที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กำลังเยือนพื้นที่ในซินเจียงเป็นวันสุดท้าย และเป็นการเยือนอย่างเป็นทางการครั้งแรกของผู้นำจีนนับแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อปี 2555 ทำให้ประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง ประกาศกร้าวจะใช้มาตรการที่เฉียบขาดเพื่อจัดการกลุ่มผู้ก่อเหตุ พร้อมยกให้เมืองคัชการ์ (ซึ่งมีประชากรประมาณ 4.2 ล้านคน โดยในจำนวนนี้ประมาณ ร้อยละ 91 เป็นชาวมุสลิมอุยกูร์) เป็นเมืองด่านหน้าเพื่อต่อสู้กับการก่อการร้าย

6 พฤษภาคม เกิดเหตุคนร้ายใช้มีดไล่แทงคนที่สถานีรถไฟกวางโจว มณฑลกวางตุ้ง ทางภาคใต้ของจีน มีผู้บาดเจ็บ 6 คน

12 พฤษภาคม ตำรวจในเขตปกครองตนเองชนชาติอุยกูร์ ซินเจียง จับกุมผู้ต้องสงสัยชาวจีนกว่า 200 คน โดยเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการเผยแพร่วิดีโอคลิปก่อการร้ายผ่านระบบอินเทอร์เน็ต และโทรศัพท์มือถือ ปฏิบัติการครั้งนี้ใช้ระยะเวลาประมาณ

6 สัปดาห์ นับแต่มีเหตุการณ์ก่อการร้ายอย่างต่อเนื่องตามสถานีรถไฟและสถานที่ต่างๆ

รัฐบาลจีนยังได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในกรุงปักกิ่ง

ก่อนหน้านี้เหตุการณ์ปะทะที่รุนแรงมากๆ ครั้งหนึ่งเกิดขึ้นในปี 2552 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 200 คน นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์รถพุ่งชนนักท่องเที่ยวแล้วเกิดระเบิดที่จตุรัสเทียนอันเหมินเมื่อปีที่แล้ว

 

มีการวิเคราะห์เชื่อมโยงว่า กลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงในเอเชียกลาง ได้รับอิทธิพลจากเครือข่ายก่อการร้ายอัลกออิดะห์และเชื่อมโยงไปยังชาวมุสลิมอุยกูร์ที่ก่อเหตุความรุนแรงในจีนด้วย เนื่องจากพื้นที่ซินเจียงอยู่ติดกับประเทศเอเชียกลาง เช่น ทาจิสถานและคีร์กิซสถาน

ในขณะที่อีกด้านหนึ่งก็มีผู้เห็นต่าง เนื่องจากเชื่อว่า หากมีการหนุนหลังจากต่างชาติจริง น่าจะใช้อาวุธก่อการที่มีประสิทธิภาพและทรงพลานุภาพมากกว่านี้ ไม่ใช้เพียงแค่ มีด หรือดาบ มาทำร้ายผู้คนเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม หากดูบริบทของการรักษาความปลอดภัยของทางการจีน ต้องยอมรับว่ามีความเข้มงวดมากในการตรวจตราวัตถุต้องสงสัย วัตถุอันตราย โดยเฉพาะการตรวจค้นอาวุธหรือของมีคม โดยใช้เครื่องสแกนเพื่อความปลอดภัย และมีด ดาบหรือของมีคมอื่นๆ รวมทั้งวัตถุไวไฟ ก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่จะพกพาไปไหนๆ ได้อย่างเสรี แต่กระนั้นก็ยังมีจุดอ่อน เพราะหากอยู่นอกเขตการตรวจค้น ก็ยากจะถูกตรวจสอบได้อย่างทันท่วงที

ประเด็นที่ชาวอุยกูร์ในพื้นที่ซินเจียง ไม่พอใจรัฐบาลกลางของจีน เนื่องจากความแตกต่างด้านศาสนา เชื้อชาติ วัฒนธรรม เศรษฐกิจอีกทั้งเป็นพื้นที่ห่างไกล จึงรู้สึกว่าถูกเลือกปฏิบัติ และไม่ได้รับโอกาสอย่างทัดเทียมกับชาวจีนฮั่น ซึ่งอพยพเข้าไปอยู่ในพื้นที่จำนวนมาก และมีบทบาทนำในทางเศรษฐกิจ เรื่องนี้เป็นประเด็นที่อ่อนไหวและรัฐบาลจีนก็ตระหนักในปัญหาดังกล่าว

รัฐบาลจีนยืนยันว่า ได้ส่งเสริมนโยบายพัฒนาทางเศรษฐกิจ เพื่อทำให้ชีวิตคนในพื้นที่มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ล่าสุด รายงานทางการจีนระบุว่า เศรษฐกิจของซินเจียงเติบโตอย่างรวดเร็ว ยอดรายได้และมูลค่าทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นถึง 1 เท่า นับแต่มีการผลักดันในเรื่องนี้ตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา

นอกจากนี้ ทางการจีนกล่าวว่า ได้มีความพยายามจะร่วมมือกับนานาชาติ เพื่อต่อต้านการก่อการร้าย เช่นใช้กลไกความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ และเมื่อชาติสมาชิกในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมตัวเป็นประชาคมอาเซียนแล้ว ก็เชื่อว่าเรื่องนี้จะเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญที่จีนต้องการร่วมมือกับอาเซียนเพิ่มขึ้น

ปัญหานี้เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะคลี่คลายหรือแก้ไขให้บรรเทาเบาบางลงไป เพราะความไม่พอใจของชนกลุ่มน้อยต่างๆในจีนได้สั่งสมมาเป็นระยะเวลาอันยาวนาน แม้มาตรการเฉียบขาดเชิงลงโทษ จะมีผลดีในระดับหนึ่ง แต่มาตรการเชิงบวกในแง่การทำความเข้าใจและสร้างความรู้สึกใหม่ให้เกิดขึ้น การลดช่องว่างทางสังคมและความแตกต่างระหว่างเชื้อชาติ ศาสนา ทำให้ชนทุกกลุ่มได้รับการปฏิบัติอย่างทัดเทียมกัน มีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและเชื่อมั่นในความเป็น "จีนเดียว" เพื่อร่วมพัฒนาประเทศไปด้วยกัน

นี่จึงเป็น "ความท้าทาย" สำคัญอีกครั้งหนึ่งของรัฐบาลจีน

โสภิต หวังวิวัฒนา เรียบเรียง

2014-05-16

ภาพประกอบจาก http://thai.china.com และ www.china.org.cn

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040