การดื่มกาแฟมีส่วนช่วยลดความอ้วนก็เพราะว่าบทบาทของคาเฟอีน ฉะนั้น การดื่มกาแฟเพื่อลดความอ้วนก็ควรเลือกกาเฟที่มีคาแฟอีนค่อนข้างมาก การคั่วกาแฟ อุณหภูมิสูง จะมีรสชาติเข้มข้น แต่ปริมาณคาเฟอีนจะค่อนข้างต่ำ ซึ่งจะไม่เป็นกาเฟที่ควรเลือกในการลดความอ้วน ฉะนั้น กาแฟอเมริกาที่มีคาแฟอีนมากจะเป็นสิ่งที่ควรเลือกสำหรับผู้ที่สนใจลดความอ้วนในการดื่มกาแฟ
นอกจากดื่มกาแฟแล้ว กลิ่นกาแฟก็มีส่วนช่วยต่อร่างกาย ซึ่งจะทำให้อารมณ์มั่นคง และเพิ่มระดับความไวต่อความรู้สึก ฉะนั้นเมื่อทำงานอยู่ ถ้าดื่มกาแฟแก้วหนึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงาน และก็สามารถกระตุ้นความปรารถนาที่จะลดความอ้วนได้ด้วย
เนื่องจากหลังดื่มกาแฟไป 30-60 นาที กรดไขมันในเลือดจะเพิ่มสูงขึ้น ถ้าประกอบกับการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม จะสามารถช่วยเปลี่ยนกรดไขมันเป็นพลังงาน ช่วยการเผาผลาญไขมันอย่างมีประสิทธิผล อย่างเช่น เดินเร็ว 10-15 นาที ไม่นั่งลิฟต์เดินบันไดเข้าสำนักงานหรือเข้าบ้าน ถ้ารู้สึกกระทำเหล่านี้รุนแรงเกินไป ก็ทำท่าที่ง่ายๆ แบบยืนอยู่กับที่ได้ เช่น การเหยียดแขนขา การยืดเขย่งเท้า การหายใจเข้า-ออกลึกๆ เป็นต้น ซึ่งจะช่วยลดความอ้วนได้
กากกาแฟที่ต้มแล้วยังสามารถเอามานวดทำให้ผิวเนียนเกลี้ยงเกลาขึ้นได้ด้วย แล้วถ้าเติมน้ำใส่ในกากกาแฟที่เหลือ แล้วทาที่บริเวณท้องน้อย ขาอ่อน เอว และตะโพกซึ่งเป็นส่วนที่ง่ายต่อการเกิดการสะสมของไขมัน หลังจากนั้นค่อยบีบนวด จะสามารถระบายไขมันมีผลลดความอ้วนได้ ถ้านวดในการอาบน้ำทุกครั้งจะยิ่งมีผลดี
ถ้ามีเวลาว่าง ใส่น้ำร้อนที่มีอุณหภูมิประมาณ 38 องศาในอ่างอาบน้ำ แล้วเอาเมล็ดกาแฟประมาณ 10 กิโลกรัมไปต้ม แล้วนำน้ำที่ได้เทเข้าไปในอ่าง ลงแช่น้ำเป็นเวลา 15-20 นาทีจะช่วยลดความอ้วนได้อีกทาง แต่ถ้ามีโรคหัวใจและหลอดเลือด ก็ใช้วิธีการแช่น้ำเป็นพักๆ ก็คือ แช่สัก 5 นาที แล้วก็ออกมาพักผ่อน 3 นาที แล้วไปแช่น้ำต่ออีก แช่ไปพักไปประมาณ 3 รอบ
ทั้งหมดนี้จะเป็นวิธีการใช้ประโยชน์จากกาแฟเพื่อลดความอ้วน แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนเหมาะกับการใช้กาแฟมาลดความอ้วนได้ ผู้ที่ไม่ควรดื่มกาแฟมีบุคคล 2 ประเภท หนึ่งก็คือผู้ที่มีโรคกระเพาะ และสองก็คือผู้ที่เป็นโรคนอนไม่หลับ เพราะคาเฟอีนจะทำให้เกิดกรดในกระเพาะ ถ้าผู้ที่เป็นโรคกระเพาะดื่มกาแฟ จะทำให้มีอาการหนักขึ้น ไม่ดีต่อกระเพาะ
แล้วสำหรับคนกลุ่มที่มีปัญหานอนไม่หลับ กาแฟก็ไม่ใช่สิ่งของที่เหมาะสมสำหรับร่างกาย เพราะว่าคาเฟอีนจะมีผลกระตุ้นประสาท ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า เมื่อคาเฟอีนเข้าสู่ร่างกายของมนุษย์แล้ว ปกติต้องใช้เวลา 6 ชั่วโมงจึงจะขับถ่ายออกไปได้ ดังนั้น คนทั่วไปจะนอนไม่หลับหลังจากดื่มกาแฟไปแล้ว 6 ชั่วโมง แต่สำหรับกลุ่มคนที่นอนไม่หลับ จะยิ่งมีระดับความไวต่อคาเฟอีน ไม่เพียงนอนไม่หลับเท่านั้น หากยังรู้สึกกระเพาะไม่สบายอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม นอกจากบุคคล 2 กลุ่มที่กล่าวถึงแล้ว ถ้าคุณผู้ฟังสนใจลดความอ้วนด้วยวิธีการดื่มกาแฟ ก็ลองทำตามได้ สรุปย่อๆ ก็คือหลังทานอาหารเที่ยงไปแล้ว 30-60 นาทีดื่มกาแฟจะช่วยในการลดความอ้วน แล้วถ้าประกอบกับมีการออกกำลังกายที่เหมาะสมอีก จะยิ่งได้ผลดีในการลดความอ้วนมากยิ่งขึ้น และจะให้ดีควรเป็นกาแฟดำ กาแฟร้อน และเลือกชนิดกาแฟที่มีคาเฟอีนมากก็จะช่วยในการลดความอ้วน