กาสะลองส่องจีน ตอน 2.2 : จากนักเรียนโอลิมปิกวิชาการคอมพิวเตอร์ สู่ว่าที่ดอกเตอร์ผู้บุกเบิกวงการ "พระเครื่องไทยในแผ่นดินจีน" : ภัณฑิล จงจิตรตระกูล
  2014-12-05 19:09:36  cri

ที่ทำอยู่นี้เรียก พุทธพาณิชย์ หรือเปล่า?

"...ก็มีคนเคยถามเหมือนกันว่าเราจะมองยังไง ในประเทศจีนที่แม้แต่วัด หรือวัดในไทยหลายๆวัด ก็เป็นไปในทางพุทธพาณิชย์มากขึ้น ก็คงเพราะด้วยสภาพสังคมที่เปลี่ยนไป แต่อย่างที่เราบอกว่ากำไรที่เราได้จากพระเครื่อง เราจะเอาไปทำอะไรเสมอ ผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่กล้าใช้เงินที่ได้กำไรจากพระนะ คือถ้าได้กำไรก็จะเอาไปทำบุญ ไม่ก็จะเอาไปทำอย่างอื่น ที่เป็นประเภทสาธารณประโยชน์จริงๆ ตอนนี้ในโครงการ เราก็เขียนโปรเจคไว้อย่างชัดเจน คือรายได้ที่มาจากพระ คือที่จริงตอนนี้ก็ยังไม่มีนะ เพราะเรายังไม่ได้ให้เช่าพระ แต่ในอนาคตถ้ามีรายได้เข้ามา เราจะเอาไปใช้ในการเผยแพร่ทางสื่อประชาสัมพันธ์เป็นหลัก ไม่ใช้ส่วนตัว ซึ่งการเผยแพร่เนี่ยตอนนี้เราก็กำลังจะมีเว็บไซต์ภาษาจีน Wechat Weibo และพวกสื่อใหม่ต่างๆ ที่กำลังจะเปิดตัวสิ้นปีนี้ และมีแผนจะกระจายสำนักงานไปตามภูมิภาคต่างๆ ของจีนในอนาคตด้วย..."

"...เพราะบางทีในบางมุมมองอาจมองว่าการประกอบการให้เช่าพระในไทย หรือกระทั่งในจีนเองปัจจุบัน มีกำไรเยอะ ยิ่งของเราที่ทำในนามสมาคม ก็จะยิ่งถูกมองว่าจะทำในเชิงพาณิชย์หรือเปล่า แต่เราก็ต้องบอกตรงๆ ว่าการเผยแพร่ หรือทำประชาสัมพันธ์ในช่วงต้นนี้เป็นช่วงที่ต้องลงทุนสูงมาก โดยเฉพาะในจีนที่ผ่านมามีการประชาสัมพันธ์ หรือโฆษณาชวนเชื่อในทางที่ไม่ถูกตามหลักสากลออกมาเยอะมาก คืออาจจะบอกได้ว่า ค่อนข้างผิดจุดประสงค์ไปไกลแล้ว เราเลยจำเป็นต้องเข้ามามีบทบาทในการให้ข้อมูล และทำความเข้าใจใหม่แต่ต้น ที่สำคัญคืออย่างถูกต้องตามหลักสากล ซึ่งดูแล้วอาจจะต้องใช้เวลามากกว่า 2-3 ปีเลย แล้วหากจะทำอย่างยั่งยืนที่ให้ทั้งประชาชน ทั้งภาครัฐยอมรับ และร่วมสนับสนุนนั้นคงอาจต้องใช้เวลามากกว่านั้นมากๆ แบบนี้เรามีต้นทุนที่สูงแน่นอน โดยเฉพาะในปักกิ่ง ที่ค่าใช้จ่ายต่างๆ ค่อนข้างสูงมาก เพราะฉะนั้นหนึ่งในสิ่งที่ทำให้เราอยู่ได้ ก็ต้องอาศัยรายได้จากตรงนี้ส่วนหนึ่ง แต่อยู่ที่ว่าเราจะใช้ในด้านไหน ผมพูดเสมอว่าการทำงานตรงนี้ไม่ได้มองมันเป็นธุรกิจ เพราะตัวผมเองก็มีธุรกิจหลักอยู่แล้ว มีรายได้ที่แน่นอนอยู่แล้ว แต่ที่ทำเพราะเป็นความชอบ อยากจะทำอะไรให้กับสังคม อยากจะช่วยเป็นสื่อ อยากทำให้คนจีนได้รู้จักพระเครื่องที่ถูกต้องจริง ๆ มากกว่า..."

ทำไมเราถึงยังมีแรงใจในการทำงานทุกวันนี้ และช่วงเวลาที่มีปัญหา เราจัดการกับมันอย่างไร?

"...คนเราเกิดมามีเวลาไม่เท่ากัน แต่ที่แน่ๆ คือเวลาที่ได้ใช้บนโลกมันน้อยนะ และผมเชื่อว่าทุกคนเกิดมาล้วนถูกส่งให้มาทำภารกิจอะไรบางอย่างให้สำเร็จ อาจจะยาก ง่าย เยอะ น้อยต่างกันไป และนี่คงจะเป็นภารกิจนึงที่ผมถูกส่งให้มาทำ ถึงแม้ว่าผมจะรู้ว่าเป็นเรื่องที่ยากมาก และก็รู้สึกเป็นเกียติอย่างมากที่ได้มีโอกาสได้ทำเรื่องนี้ ที่สำคัญต้องขอบคุณครอบครัวที่อบรมสั่งสอนให้ผมมีทุกวันนี้ และที่ขาดไม่ได้คือผู้ใหญ่หลายๆ ท่านที่ให้ความไว้วางใจ แล้วก็สนับสนุนผมในทุกๆ ด้าน ก็คงไม่มีเหตุผลอะไรที่ทำให้ผมไม่มุ่งมั่น หรือทุ่มเทกับงานๆ นี้..."

"...ตัวผมเองตั้งแต่เล็กจนโตก็ก็คิดมาตลอด เชื่อมาตลอดว่าการที่เราจะประสบความสำเร็จในชีวิตได้ คือเราต้องมุ่งมั่นเดินหน้าไปเรื่อย ๆ และเมื่อไหร่ถ้าเราหยุด นั่นเท่ากับว่าเราถอยหลัง เพราะโลกที่หมุนไป กาลเวลาที่หมุนไป ทุกคนก็เดินหน้ากันหมด เราหยุดพักเมื่อไหร่ ก็เท่ากับเราถอยหลัง คือที่จริงพักได้ แต่อย่าหยุดเดิน ชีวิตเราถูกลิขิตมาแบบนี้ เราอาจจะไม่รู้หรอกว่าจริง ๆ แล้วเราถนัดหรือเราชอบอะไร แต่อยู่ที่ว่าเราทำไปแล้วเนี่ย เราทำให้คนที่บ้านภูมิใจมากแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นด้านไหนเรื่องอะไรก็ต้องทำให้เต็มที่ตลอด..."

"...ผมเป็นคนที่ไม่ซีเรียสกับปัญหา การที่เราจะเดินให้ถึงจุดหมายเนี่ย มันย่อมมีอุปสรรคหรือปัญหาเกิดขึ้นตลอด แต่สิ่งที่ทำให้ผมมุ่งมั่นไปให้ถึงจุดหมายเนี่ย นอกจากความเชื่อความศรัทธาแล้ว ที่จริงคือผมเป็นคนคิดแบบวิทยาศาสตร์ คือใช้เหตุและผล นี่อาจจะเป็นข้อดีสักหน่อย เราต้องมองว่าปัญหามันเป็นประสบการณ์ มองว่าเราได้ประสบการณ์ที่คนอื่นไม่มี เราได้อาวุธเพิ่มขึ้นอีกชิ้นละ อย่าไปมองว่าปัญหาคือปัญหา คือผมเป็นคนที่ชอบอะไรท้าทาย พอเจอปัญหาแล้วยิ่งอยากแก้ให้ได้ มันเหมือนเราได้ฝึกคิดได้พัฒนาตัวเอง และไม่เคยคิดว่าถ้าแก้แล้วจะไม่เจอทางออก เพราะทุกอย่างที่ทำ และแก้ออกมา เรามีความสุขกับผลลัพธ์ที่ได้ ผมมองปัญหากับเป้าหมายเป็นโจทย์ข้อนึง อาจมีวิธีแก้โจทย์หลายวิธี มีหลายคำตอบ แต่สุดท้ายเราต้องพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้มา สิ่งสำคัญคืออย่าท้อ อย่าหยุดเดินเท่านั้นเอง เราก็จะไม่มีวันถอยหลัง..."

แนะนำคนไทยที่อยากมาลงทุนในจีน?

"...อันดับแรกของการลงทุนในต่างประเทศ สิ่งสำคัญคือควรศึกษาก่อนคือภาษาของเค้า สองคือวัฒนธรรม โดยเฉพาะประเทศจีนเป็นหนึ่งในประเทศที่มีประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และเป็นประเทศที่มีการใช้ชีวิตที่ถูกปลูกฝังที่เป็นแบบเฉพาะตัวมายาวนานมาก ยิ่งเป็นประเทศที่ใหญ่แล้วเนี่ย แต่ละพื้นที่ยังมีลักษณะเฉพาะต่างกันเลย เหมือนที่คนจีนเค้าพูดว่า "一方水土养一方人" ก็คือ ก็คือโตมาในแวดล้อมแบบไหน คนก็เป็นแบบนั้น เพราะฉะนั้นการที่คุณจะไปลงทุนในเขตไหน พื้นที่ไหน คุณควรจะศึกษาว่าเขามีวัฒนธรรม มีความถนัดอย่างไร เพราะธุรกิจมันต้องเริ่มจากการพูดคุยเจรจา การปฏิสัมพันธ์กับคน แต่ละคนก็หาผลประโยชน์สูงสุดของกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นพาร์ทเนอร์ หรือลูกค้า เราต้องพิจารณาให้ได้ว่าเรามีความสามารถ หรือมีอะไรที่จะทำให้เค้าพอใจ และเค้าสามารถทำอะไรให้เราพอใจมั้ย มันต้อง win win ตรงนี้คุณต้องศึกษาให้ละเอียด เพราะการทำธุรกิจคือการสร้างมูลค่าในสิ่งที่ฝ่ายตรงข้ามต้องการ คือต้องทำให้เกิดความพอใจทั้งสองฝ่ายอย่างสมดุล ถึงจะดีลกันสำเร็จ ผมบอกได้เลยไม่มีใครมาช่วยคุณฟรีๆหรอก โดยเฉพาะการลงทุนในจีนนะ เค้าแข่งขันทางธุรกิจกันแบบดุเดือดมาก ทั้งเทคนิค มายากล คือคิดกันไม่ถึงอ่ะ เพราะฉะนั้นคู่แข่งคุณ หรือพาร์ทเนอร์ของคุณเวลาเค้าลงมือ หรือเจรจาทำข้อตกลงกันเนี่ย เค้าก็ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์สูงสุดของตัวเค้าเอง การที่คุณนิ่ง ก็คือคุณยอมรับว่ายอมยกประโยชน์ให้เค้าไป สุดท้ายจะมาบอกว่าโดนโกง หรือโดนหักหลังไม่ได้ คุณต้องคิดให้ทัน ต้องทันคน คือก็มีอีกคำที่คนจีนเค้าบอกเสมอว่า "丑话说在前面" ถ้าแปลตรงๆก็คือ เอาคำพูดที่ไม่เพราะมาพูดก่อน มันหมายถึงการจะตกลงทำความร่วมมือกัน หรือร่วมทุนกันเนี่ย สัญญาต้องเขียนให้ครอบคลุม ต้องละเอียดรอบคอบ ใครควรได้อะไร ใครอยากได้อะไรก็พูดกันให้เคลียร์ตั้งแต่แรก อย่าไปเกรงใจ พอใจทั้งสองฝ่ายก็ทำร่วมกัน ไม่พอใจก็เจรจาหาข้อยุติว่าจะจบกันที่ตรงไหนได้ หรือไม่ได้ไม่คุ้มก็ไม่ทำ สุดท้ายลงให้เป็นลายลักษณ์อักษรให้ชัดเจนบนสัญญาให้มีผลทางกฏหมาย อย่าเข้าใจไปเอง หรืออย่าเชื่อคำสัญญาจากลมปาก ทุกอย่างต้องอยู่บนหนังสือสัญญาเท่านั้น แล้วคุณจะร่วมมือกันอย่างแฮปปี้บอกเลย..."

ในชีวิตของคนเราการจะทำอะไรก็ตามแต่ ช่วงแรกมักจะยากและหนักหน่วงที่สุดเสมอ กาสะลองส่องจีนตอนนี้ได้หยิบเอาตัวอย่างของคนที่กล้าทำตามสิ่งที่ตัวเองรักโดยไม่หยุดพักสักแต่น้อย ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้พี่ชิ ประสบความสำเร็จ บุกเบิกให้พระเครื่องไทยเป็นที่รู้จัก "อย่างเข้าใจ" ในจีนนะครับ

กาสะลองส่องจีน สัปดาห์หน้า : จากข้าราชการกระทรวงไอซีทีไทย สู่นักศึกษาทุนปริญญาโท กรุงปักกิ่ง : นพคุณ สุนทรหงส์

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040