กาสะลองส่องจีน ตอน 15.3 : One Day Trip ท่องปักกิ่งตะวันออกเฉียงเหนือ
  2015-04-24 15:45:34  cri

ยินดีต้อนรับสู่สวนพฤกษศาสตร์ กรุงปักกิ่ง สถานที่ลำดับต่อไปที่ผมจะพาคุณผู้อ่านมาท่องเที่ยวช่วงฤดูใบไม้ผลิชาญเมืองหลวงครับ ที่นี่ เราจะได้เห็นคนเมืองกรุงเขานัดกันมาพักผ่อนหย่อนกายท่ามกลางแมกไม้สุดลูกหูลูกตา ความจริงแล้วสวนแห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากทางขึ้นหุบเขาเซียงซันเลย เดินหากันได้ แต่ผมแนะนำให้คุณผู้อ่านวางแผนมาเซียงซันอีกครั้งช่วงฤดูใบไม้ร่วงครับ เพราะที่นี่เขาขึ้นชื่อว่าเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยที่สุดของกรุงปักกิ่ง เอาเป็นว่าปลายปีผมจะมารีวิวให้ชมกันอีกทีนะครับ (นี่ติดค้างกันยาวเลยนะเนี่ย)

จากตอนที่แล้วผมส่งคุณผู้อ่านด้วยภาพมวลมหาประชาชนที่ยืนรอต่อแถวซื้อบัตรเข้าชมสวน แต่ครับแต่...นั่นยังไม่เรียกว่าเยอะนะครับ คนส่วนใหญ่น่ะ เขาไหลกันเข้าไปในสวนแล้ว อ่านถึงตรงนี้อาจจะรู้สึกว่า "แล้วแกจะพาฉันมาทำไม คนก็เยอะ แย่งกันกินแย่งกันใช้" โอ๋ ๆ ใจร่ม ๆ นะครับ ต่อให้คนจะมากขนาดไหน ผมกล้ารับประกันว่าสถานที่แห่งนี้รองรับไหวแน่นอน ด้วยพื้นที่กว่า 4 ล้านตารางเมตร สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า "พืช" กว่า 1 หมื่นชนิด ต้นไม้กว่า 1 ล้าน 5 แสนต้น อลังการงานสร้างไหมล่ะครับ

หลังจากเดินเข้ามาภายในสวนได้ไม่กี่ก้าว คุณผู้อ่านก็จะเจอกับทุ่งทิวลิปครับ เชื่อไหม ผมเห็นแล้วผมยอมใจจริง ๆ ดอกอะไรก็ไม่รู้ สีจัดจ้านเสียจริง คือถ้ามีเครื่องวัดระดับความเข้มของสี แล้วเอาเจ้าดอกนี่ไปเทียบ ผมว่าเข็มมันคงสั่นดิ๊ก ๆ ๆ ๆ ประเมินค่าไม่ได้

ลืมบอกไปหน่อยครับว่า ด้วยความที่สวนมันมีขนาดมหึมา อาจจะรู้สึกว่าถ้าพาผู้สูงวัยมาเที่ยวด้วยแล้วจะไหวหรือเปล่า ที่นี่เขามีบริการรถกอล์ฟให้ครับไม่ต้องห่วง และทางสวนเขาก็ได้ทำทางสำหรับเดินรถเข้าถึงทุกจุดสำคัญจริง ๆ แต่ว่าก็ว่าเถอะครับ ผมว่าถ้าคุณพ่อคุณแม่มาท่านคงอาสาเดินเองแน่ ๆ เพราะมันจะได้ความใกล้ชิดกับดอกไม้กว่าเยอะ

ในสวนพฤกษศาสตร์ กรุงปักกิ่ง นอกจากจะมีแมกไม้นานาพันธุ์แล้ว ยังเป็นสถานที่สำหรับวิจัยพันธุ์พืชเขตต่าง ๆ ด้วยนะครับ อย่างเรือนกระจกที่เห็นนี่ก็เป็นของเขตร้อนชื้น พื้นที่อีกส่วนหนึ่งก็จะเป็นคล้าย ๆ กับอุทยานทางประวัติศาสตร์ครับ คือมีวัดพระนอนอายุหลายร้อยปีตั้งอยู่ จากการสอบถามผู้เชี่ยวชาญอีกท่านที่เดินทางมาด้วยก็บอกว่าวัดพระนอนแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานของพระนอนสัมฤทธิ์ คาดว่าหล่อขึ้นมาตั้งแต่ในสมัยราชวงศ์หยวน ตัวองค์พระนอนมีความยาว 5.3 เมตร หนัก 54 ตัน แต่ทางวัดไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ ผมก็เลยว่านอนสอนงายไปตามระเบียบ

นอกจากตัวหอพระนอนแล้ว รอบ ๆ วัดยังมีภาพเขียนเล่าเรื่องเกี่ยวกับพุทธศาสนายาวไปตามกำแพงวัดด้วยครับ เห็นแล้วนึกถึงวัดตามต่างจังหวัดเหมือนกันที่มักจะใช้กำแพงวัดเล่าเรื่อง แต่ที่ผมชอบเหลือเกินและแนะนำจริง ๆ หากคุณผู้อ่านจะมาเที่ยวสวนแห่งนี้ คือต้องมาเห็นด้วยตาตัวเองจริง ๆ ก็คือ "ปลาทอง" ครับ

ความจริงแล้วบ่อปลาทองเนี่ยจะอยู่ภายในวัดพระนอนเนี่ยแหละครับ และจะเจอก่อนใครเพื่อนเลย ด้วยสีของมันที่จัดจ้านไม่แพ้กับทิวลิปที่กล่าวถึงในตอนแรก แต่นั่นก็ไม่น่าตกใจไปกว่าความเรียบร้อยของมันครับ ตัวผมอยากเหลือเกินที่จะถ่ายคลิปมาลงให้คุณผู้อ่านได้ชมว่ามันเรียบร้อยโรงเรียนจีนขนาดไหน ถ้าเป็นบ้านเราเวลามันได้อาหารมันก็จะรุมกันแล้วใช่ไหมครับ แต่ไม่กับที่นี่ ปลาที่นี่เหมือนกำหนดตัวเองได้ หิวหนอ ๆ อยากกินหนอ ๆ กินหนอ ๆ กลืนหนอ ๆ คือเห็นแล้วร้องอุทานว่า "เฮ้ย!" ดัง ๆ ขึ้นในใจเลย สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นครับ ขอร้องแรง ๆ ให้มาสัมผัสกันจริง ๆ สักครั้ง

เดินยังไม่ทันไรเวลาผ่านไปก็ใกล้เย็นแล้ว ขากลับเข้าเมือง คุณผู้อ่านสามารถเดินออกมาที่ทางเข้าเดิมในตอนแรกและไปหยุดยืนรอรถที่ป้ายรถเมล์ใกล้ ๆ จุดจำหน่ายตั๋วได้เลยครับ จับตามองสาย "505" เข้าไว้ คันนี้แหละที่จะพาทุกท่านกลับไปสู่จุดที่ท่านมา ก็คือสถานีรถไฟใต้ดินสาย 1 ผิงกั่วหยวนนั่นเอง

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ One Day Trip ท่องปักกิ่งตะวันออกเฉียงเหนือ หากได้มาช่วงฤดูใบไม้ผลิอย่าลืมมาเก็บ 2 ที่นี้นะครับ แล้วจะรู้ว่าถึงจะเป็นเมืองหลวง มีความพลุกพล่านขนาดไหน ทว่า "ความชิลล์" นั้นไซร้มีอยู่จริง พบกันใหม่สัปดาห์หน้า สวัสดีครับ

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040