กรุงเทพฯ – วันที่ระลึกเหตุการณ์สำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ได้เวียนมาบรรจบอีกครั้ง หลังจากที่ประเทศไทยและจีนได้ริเริ่มความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2518 (หรือค.ศ. 1975) ในสมัยนายโจว เอินไหลและม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นผู้นำ สถานทูตจีนประจำประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงฉลองครบรอบ 40 ปีความสัมพันธ์ไทย-จีน เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2558 เวลา 18.30 น. ณ โรงแรมแชงกรีล่า ถนนเจริญกรุง

นายนิ่ง ฟู่ขุย เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย กล่าวปาฐกถาในงานเฉลิมฉลองโดยเน้นไปที่การสืบทอดเจตนารมณ์และร่วมสร้างอนาคตที่สวยงามไปพร้อมกัน โดยกล่าวขอบคุณแขกที่มาในงาน เพราะทุกคนมีส่วนช่วยในการสนับสนุน เขียนหน้าประวัติศาสตร์ รวมถึงเป็นประจักษ์พยานในการมองเห็นการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างไทยและจีน วันนี้เมื่อ 40 ปีก่อนนายโจว เอินไหล - นายกรัฐมนตรีของจีน และม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช -นายกรัฐมนตรีของไทยได้ลงนามใน "แถลงการณ์ร่วมสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการ" หลังจากนั้นมาไม่ว่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ทั้งสองประเทศก็ยังคงยืนหยัดรักษาความสัมพันธ์ที่ดีมาตลอด จับมือกันมุ่งสู่อนาคต สร้างสัมพันธ์ที่ดีในทุกมิติและดื่มด่ำผลประโยชน์ร่วมกัน

40 ปีที่ผ่านมา ไทยและจีนเพิ่มระดับมิตรภาพในเชิงลึก แต่ก็ไม่ก้าวก่ายสถานการณ์ภายในประเทศของอีกฝ่ายหนึ่ง แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลเกิดขึ้น จีนยังคงมองไทยเป็นมิตรเช่นเดิม ความสัมพันธ์ทุกระดับไม่ว่าจะเป็นระดับราชวงศ์หรือผู้นำประเทศ ไม่ว่าจะเป็นประธานาธิบดีสี จิ้นผิงหรือนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ต่างก็เคยเคยพบปะกับพลเอกประยุทธ์ ผู้นำของไทยหลายครั้ง การที่ผู้นำไทยเลือกที่จะไปเยือนจีนเป็นประเทศแรกในนอกเขตอาเซียน แสดงให้เห็นว่าไทยให้ความสำคัญกับจีนเป็นอย่างมาก ส่วนปีนี้ผู้นำจีนก็จะมาเยือนไทยอย่างต่อเนื่อง นี่ก็แสดงให้เห็นว่าจีนเองก็ให้ความสำคัญกับไทยเช่นเดียวกัน

40 ปีที่ผ่านมา ตัวเลขมูลค่าการค้าการแลกเปลี่ยนของไทยและจีนขยับจาก 25 ล้านดอลล่าร์สหรัฐในปีค.ศ. 1975 พุ่งเป็นเกือบ 726,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐในปีค.ศ. 2014 ทำให้จีนกลายเป็นคู่ค้าอันดับแรกๆของไทยทั้งในแง่การนำเข้าและส่งออก และไม่นานมานี้เราก็กำลังผลักดันความร่วมมือเรื่องการสร้างทางรถไฟและความร่วมมือด้านธุรกิจสินค้าเกษตร

40 ปีที่ผ่านมา ไทยและจีนเสมือนลงเรือลำเดียวกันมาตลอด ประหนึ่งญาติสนิทมิตรสหาย เวลาผ่านไปความสัมพันธ์ยิ่งแน่นแฟ้น นักท่องเที่ยวจีนมาเยือนไทยเป็นอันดับหนึ่งจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด แค่ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนมาเยือนไทยมากถึง 2,700,000 คน มากขึ้นเป็นเท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว นักเรียนไทยที่ไปศึกษาต่อ ณ ประเทศจีนที่มีจำนวนสูงที่สุดในบรรดานักเรียนจากประเทศกลุ่มอาเซียน ส่วนการจัดกิจกรรม "เฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน" ก็กลายเป็นเทศกาลความร่วมมือระหว่างไทยจีนที่คนจดจำได้มากที่สุดเทศกาลหนึ่ง

รัฐบาลจีนมีความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยมาโดยตลอด พร้อมจะให้ความร่วมมือและสนับสนุนในทุกๆด้าน เอื้อประโยชน์ร่วมกัน เพื่อความสุขและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชนทั้งสองประเทศ จีนยังอยากให้อาเซียนร่วมมือกับจีนภายใต้แนวคิดการพัฒนา "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" เพื่อความเจริญทางด้านเศรษฐกิจและความสงบในภูมิภาค

ทางจีนเชื่อมั่นว่าภายใต้การสนับสนุนจากทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชน ความสัมพันธ์ระหว่างไทยจีนยิ่งแน้นแฟ้นมากขึ้นและมีอนาคตที่สดใสร่วมกันอย่างแน่นอน

ด้านพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทยกล่าวในงานถึงความสัมพันธ์ของสองประเทศว่าเกิดขึ้นมายาวนานแล้ว เริ่มตั้งแต่สถาบันฯ ทุกรัฐบาลก็มีการสานต่ออย่างต่อเนื่องรวมถึงการไปมาหาสู่ของประชาชน ราชวงศ์ของไทยไปเยือนจีนถึง 38 ครั้งและมีการเรียนภาษาจีน ผู้นำก็พบปะทั้งแบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ

ด้านเศรษฐกิจ ตนมีความคาดหวังให้มูลค่าการค้าเป็นเท่าตัวในปีถัดไป ผลผลิตการเกษตรส่งออกไปยังจีนจำนวนมากและได้ราคาดี และหวังให้การเชื่อมโยงของไทย-จีนเป็นไปในแง่บวก ขยายตัวไปในเชิงลึกมากขึ้น ก็ต้องขอบคุณสถานทูตจีน กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานอื่นๆที่ร่วมกันจัดงานนี้ขึ้นมา

พูดถึงเวลา 40ปีก็เทียบได้กับคนที่ผ่านอะไรมาไม่น้อยแล้ว มีเรื่องราวหลายอย่างให้มาเสวนากัน ตอนนี้ความร่วมมือมั่นคงในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการค้า การลงทุน การศึกษา ฯลฯ ก็ได้รับแรงสนับสนุนอย่างเต็มที่ และสำหรับอนาคตไม่ว่าเรื่องใดทั้งสองประเทศก็มีอนาคตร่วมกัน

ปิดท้ายงานด้วยการถ่ายรูปผู้นำสองประเทศร่วมกับคณะนักร้องประสานเสียงมิตรสัมพันธ์กรุงเทพฯ

เรียบเรียงและรายงาน: อรอนงค์ อรุณเอก 林敏儿