สัปดาห์นี้ผมจะพาคุณผู้อ่านไปเที่ยวรอบนอกจิ่งหงอีกสักที่แล้วกันนะครับ ตลอด 3 วันที่ผ่านมา ยอมรับจริง ๆ ว่าฝ่ายวิเทศสัมพันธ์เขาพาทีมข่าวจัดหนักจัดเต็มมาก ๆ และศูนย์การท่องเที่ยวและเรียนรู้หมู่บ้าน "ม่านจ่าง" นี่เอง ที่เป็นสถานที่ปิดท้ายในทริปครั้งนี้ และเป็นสถานที่ที่ทำให้ผมรู้สึกว่านี่แหละเชียงรุ้ง
หมู่บ้านม่านจ่างตั้งห่างจากตัวเมืองจิ่งหงประมาณ 40 นาที ด้วยความที่ทางการท้องถิ่นอัดฉีดงบดันม่านจ่างให้เป็นสถานที่เที่ยวที่พลาดไม่ได้อีกแห่ง ทำให้การคมนาคมรวมถึงสภาพของหมู่บ้านในทุกวันนี้เพรียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต้อนรับนักท่องเที่ยว อาจจะสงสัยใช่ไหมครับว่า อ้าว! แล้วอย่างนี้จะเหลืออะไรดี ๆ ให้ฉันเห็น ตามผมไปดูกันเลยครับ
เริ่มต้นกันตั้งแต่ทางเข้า เราก็จะพบกับผู้นำเที่ยวสาวสวยออกมาต้อนรับพร้อมกับโทรโข่งคู่ใจ หากมากันเองกลัวจะสื่อสารภาษาจีนไม่รู้เรื่องก็ใช้ภาษาเหนือของไทยคุยกันแทนกันได้บ้างครับ ยิ่งเธอทราบว่าผมเข้าใจภาษาท้องถิ่น ก็ยิ้มและพยายามพูดด้วยใหญ่
ลักษณะของบ้านแต่ละหลังยังคงความเป็นพื้นเมืองไว้ได้อย่างดี เกือบทั้งหมดก็จะเป็นบ้านไม้ยกพื้นสูงเช่นเดียวกับเรือนของคนในพื้นที่ภาคเหนือไทย แต่ที่ต่างก็เห็นจะเป็นครัวของที่นี่ ที่จะรวมเข้าไปกับห้องนั่งเล่นและห้องนอนเลยในชั้นบน ตามฝาผนังบ้านก็จะติดรูปคนในครอบครัวทั้งที่ยังมีและไม่มีชีวิต แน่นอนว่านกยูงเจ้าถิ่นก็มากับเขาด้วย
ด้วยความที่ถูกยกระดับจากหมู่บ้านธรรมดากลายเป็นหมูบ้านสาธิตการเรียนรู้ คนในหมู่บ้านเองนอกจากจะเป็นเจ้าของบ้านแล้ว ก็มีหน้าที่ในการสาธิตการใช้ชีวิตประจำวันให้พวกเราได้เห็นกัน ทั้งการทอผ้า การปั้นเครื่องดินเผา การกลั่นเหล้า ทำน้ำตาลปึกหรือแม้แต่ดอกไม้ไฟ ซึ่งแต่ละจุดที่จัดแสดงเราสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมได้ทั้งหมดครับ
หมู่บ้านมีขนาดไม่ใหญ่มากครับ เดินรอบ ๆ สักประมาณชั่วโมงเดียวก็มาถึงจุดสุดท้ายซึ่งเป็นไฮไลท์ บริเวณนี้จะเป็นคล้าย ๆ กับเวทีที่สร้างขึ้นมาใหม่เพื่อจัดการแสดงหรือประกอบพิธีสำคัญ ๆ ต่าง ๆ และข้าง ๆ ก็เป็นคูที่ขุดยาวไปสู่ทางออกในกรณีที่นักท่องเที่ยวอยากล่องแพไม้กลับไปขึ้นรถที่ทางเข้า
หลังจากที่นักท่องเที่ยวมากันครบแล้ว ชาวบ้านทุกคนก็จะมารวมตัวกันที่นี่เพื่อทำการแสดงในชุดสุดท้าย การแสดงจะเล่าเรื่องวิถีชีวิตของคนในหมู่บ้านผ่านบทเพลงและการเต้นรำร่วมกัน แม้ใครคนใดคนหนึ่งเจอปัญหา ทุกคนก็จะหันมาและยื่นมือช่วยเหลือ รอยยิ้มที่ทุกคนมีให้กันระหว่างแสดง มันส่งมาถึงและรับรู้ได้จริงว่าพวกเขาจริงใจและภูมิใจที่ต่างก็เป็นสมาชิกของหมูบ้านแห่งนี้ อดคิดไม่ได้ว่ารอยยิ้มแบบนี้ยังซ่อนตัวอยู่ให้เห็นที่ไหนในบ้านเราบ้าง
"หมู่บ้านม่านจ่าง" ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่น่าเอาอย่างนะครับ ของเก่าก็รักษาไว้ได้ดี อะไรที่เพิ่มเติมเข้ามาก็สามารถอยู่ร่วมกันได้โดยไม่รู้สึกผิดแปลก ถ้ามีโอกาสก็อย่าพลาดมาชมรอยยิ้มของพวกเขากันนะครับ