"เมื่อกำหนดการไม่เป็นไปตามกำหนดการ..."
"หน้างาน" น่าจะเป็นอีกหนึ่งคำจำกัดความของการเดินทางกับทัวร์จีนแท้ ๆ ส่วนตัวผมไม่ได้รู้สึกลบกับคำ ๆ นี้นะ ผมมองว่าการแก้ไขปัญหาหน้างาน หรือการหาเงื่อนไขที่ดีที่สุดที่มีในเวลานั้นได้ ก็เป็นประโยชน์ต่อลูก ๆ เป็ดทั้งนั้น เรื่องของเรื่องคือทีแรกทางบริษัททัวร์บอกกับเราว่าจะมีอาหารเลี้ยงทุกมื้อ พอมาตอนนี้บอกว่าจะเลี้ยงอาหารกลางวันชั้นดี แลกกับการที่ปล่อยให้เดินเล่นชมเมืองต้าถงตามใจชอบ (แต่ไม่มีข้าวเลี้ยงนะจ๊ะ) ทว่าก็เป็นอีกยก ที่ฝ่ายทัวร์ได้ชัยไปอย่างใส ๆ เป็นอีกครั้งที่นึกในใจว่าถ้าเหตุการณ์แบบนี้เกิดกับลูกเป็ดไทย คงดังไกลถึงเว็บไซต์สังคมคุณภาพ
คืนนี้เราได้นอนโรงแรม 4 ดาวจริงตามเขาว่า จริง ๆ แล้วผมเคยมีโอกาสออกนอกปักกิ่ง (โดยไม่ได้ใช้ทุนตัวเอง ) อยู่ครั้งหนึ่ง ตอนไปทำข่าวที่เชียงรุ้ง สิบสองปันนา ซีอาร์ไอก็จัดที่พักให้ผู้เชี่ยวชาญเสียดีเชียวครับ คิดว่าก็ 4 ดาวเหมือนกัน ถึงตรงนี้แล้วไม่ได้เข้าข้างฝั่งจีนนะ แต่เราคนไทยเองต้องปรับทัศนคติเกี่ยวกับจีนในเรื่องของความสะอาด ที่พัก ห้องน้ำกันใหม่ได้แล้ว ทุกวันนี้หากถามว่ายังมีไหมที่เป็นแบบที่เราคิด ก็มีครับ มีแน่ ๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าที่ ๆ ไปทุกที่จะเจอแต่อะไรแบบนี้
เข้าวันสุดท้ายของทริปแล้ว ที่สุดท้ายที่จะไปในวันนี้เป็นถ้ำพระพุทธรูป หยุนกังสือคู ยังไม่ทันจะลงจากรถ งานก็เข้าอีกรอบ ไกด์ให้โหวตครับว่ารถจะส่งถึงแค่ปากทางเข้า เรามีทางเลือกสองทางคือเดินเข้าไป ไม่ก็นั่งรถกอล์ฟที่ทางสถานที่ท่องเที่ยวบริการให้ สนนราคาหัวละ 50 บาท เสียงแตกออกเป็นสองฝ่ายชัดเจน คนส่วนใหญ่ยอมเสียเพิ่ม 10 หยวนให้ได้ถึงตัวถ้ำเร็วขึ้น แต่มี 2 คนที่ยืนกรานจะเดินออกกำลัง สุดท้ายทุกคนก็ต้อง....เดินวนไปครับ เพราะหากจะไปก็ไปด้วยกันนะ ไปคนเดียวไม่เอาหรอก (เพลงมาเลยทีนี้) จริง ๆ แล้วไกด์ไม่ยอมให้แตกกลุ่มกันต่างหาก
ความงามของถ้ำคงได้เห็นกันผ่านตามานักต่อนัก แม้จะไม่มลังเมลืองเท่าพระพุทธรูปที่เขาเล่อซาน แต่สำหรับใครที่ได้เห็นสิ่งก่อสร้างรูปแบบนี้ครั้งแรกแล้ว ต้องยอมรับในความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนจีนเมื่อหลายพันปีก่อนจริง ๆ
แทบจะเป็นลายเซ็นต์ของสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในจีนแล้วที่ขากลับออกมาจะต้องผ่านการดึงสติระวังกระเป๋าเงินสั่น เพราะร้านขายของที่ระลึกของเมืองนับร้อยร้านจะแย่งชิงตัวเราราวกับดาราฮอลีวู้ด ใครนิ่งพอก็รอดมาได้ครับ ส่วนผม...หมดตัวครับ
ลืมพูดถึงความเป็นคนไทยหนึ่งเดียวในรถ ด้วยความที่แปลกเชื้อชาตินี่แหละครับ ทำให้ไกด์พินอบพิเทาเป็นพิเศษ ผมแยกตัวไปไหน สายตาแกก็กวาดไกวไวกว่าอะไรทั้งสิ้น แน่นอนว่าพูดออกไมค์บนรถที ก็ต้องมีผมอยู่ในนั้นด้วยเสมอ คนบนรถทุกคนก็เลยได้รู้จักผมโดยตั้งใจก็ดี ไม่ได้ตั้งใจก็ดีเสียซะอย่างนั้น ความเป็นไทยในสายตาคนจีน เขาคิดกับเราในแง่บวกอยู่เสมอครับ ไม่เชื่อก็ต้องลองมาพิสูจน์ด้วยตัวเอง
สิ่งที่ผมนำมาแบ่งปันตลอด 3 สัปดาห์มานี้ แทบจะไม่ได้มีการอธิบายสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ทั้งนั้น ผมว่าคุณผู้อ่านคงจะมองเห็นและเข้าใจจุดประสงค์ของผมเองเช่นกัน ประสบการณ์การเดินทางกับทัวร์จีนแท้ ๆ ครั้งนี้ มันมีรสชาติความรู้สึกเกิดขึ้นมากมายกว่าที่เขียนเยอะครับ มันมีทั้งคำถาม คำตอบ ความสุข ความงง ฯลฯ ผมว่าทุก ๆ ครั้งการทำอะไรที่มันไม่เคยได้คิดเลยว่าชีวิตจะได้ทำ มันสร้างพลังให้เราหลังจากนั้นได้เยอะมาก ส่วนจะเป็นพลังบวกหรือลบ ก็อยู่ที่ว่าใจจะมองให้เป็นอย่างใดมากกว่ากัน แค่มีสติอยู่กับสิ่งที่ทำเสมอ แล้วไม่เดือดร้อนใคร ที่เหลือก็อยู่ที่ว่า... ทริปต่อไปจะเป็นอะไรแล้วล่ะครับ