เมื่อปีใหม่มาถึง ผู้คนส่วนใหญ่จะคิดตั้งเป้าหมายและกำหนดแผนปีใหม่ จีนมีประโยคว่า "一年之计在于春，一天之计在于晨" ซึ่งหมายความว่า ต้องกำหนดแผนของทุกปีในฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งเป็นต้นปี และควรกำหนดแผนของทุกวันในตอนเช้า ซึ่งเป็นต้นวัน เพื่อบอกผู้คนว่า เมื่ออยากทำอะไร ต้องวางแผนโดยเร็ว และสอนให้ถนุถนอมเวลา
จริงๆ แล้ว ค่านิยมกำหนดแผนงานในปีใหม่ไม่ได้เพิ่งมีขึ้น ในสมัยบาบิโลนโบราณ ผู้คนก็จะให้คำมั่นสัญญาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นับถือในตอนต้นของทุกปี พร้อมจะคืนสิ่งของที่ยืมจากคนอื่นหรือชำระหนี้ให้เสร็จสิ้น ชาวโรมันโบราณก็ทำเช่นนี้เหมือนกัน ซึ่งอัศวินทุกคนจะปฏิญาณตนในตอนต้นปีด้วย ในปีใหม่ ศาสนิกชนของศาสนายูดาห์ต้องทบทวนตนเองและปฏิญาณตนในปีใหม่ตามประเพณี
สำหรับความสำคัญของการตั้งเป้าหมาย มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดได้ใช้เวลา 10 ปีศึกษาพบว่า การมีเป้าหมายหรือไม่ มีแผนการปฏิบัติหรือไม่ เป็นปัจจัยสำคัญตัดสินว่า จะประสบผลสำเร็จได้หรือไม่ โดยเมื่อปี 1979 นักวิชาการมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเลือกนักศึกษาชั้นหนึ่ง ให้ตั้งเป้าหมายสำหรับอนาคตของตน ผลปรากฏว่า นักศึกษา 84% ไม่มีเป้าหมาย 13% มีเป้าหมายแต่ไม่มีวิธีการทำ 3% มีทั้งเป้าหมายและวิธีการทำ ช่วง 10 ปีผ่านมา นักวิชาการจึงติดต่อกับนักศึกษาเหล่านี้และพบว่า กลุ่ม 13% ซึ่งเป็นนักศึกษาที่มีเพียงเป้าหมาย แต่ไม่ได้คิดวิธีการทำ มีรายได้ 2 เท่ามากกว่ากลุ่ม 84% ซึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่มีเป้าหมาย ส่วน 3% ซึ่งมีทั้งเป้าหมายและวิธีการทำ มีรายได้มากกว่า 10 เท่าเมื่อเทียบกับนักศึกษาส่วนใหญ่ นักวิชาการจึงสรุปว่า เมื่ออยากประสบผลสำเร็จ การตั้งเป้าหมายปีใหม่สำคัญมาก ซึ่งไม่ใช่เพียงความปรารถนาในปีใหม่ และผู้ใหญ่ควรสอนให้ลูกเริ่มตั้งเป้าหมายของตนแต่เด็ก
จริงๆ แล้ว นักธุรกิจที่มีชื่อเสียงเกือบทุกคนมีเป้าหมายปีใหม่ทุกปี นายมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) นักธุรกิจและผู้ก่อตั้งเฟสบุ๊ค (Facebook) ของสหรัฐฯ ตั้งเป้าหมายท้าทายตนเองในต้นปี เช่น ในปี 2015 เขาตั้งเป้าหมายจะอ่านหนังสือ 2 เล่มทุกเดือน ในปี 2016 เขาตั้งเป้าหมายจะสร้าง AI (Artificial Intelligence) หรือปัญญาประดิษฐ์ที่ใช้งานได้ในบ้าน และวิ่ง 587 กิโลเมตรภายในหนึ่งปี ซึ่งเขาบรรลุได้ทุกเป้า ในปีนี้ นายซัคเคอร์เบิร์กก็ได้ตั้งเป้าหมายใหม่เหมือนกัน ซึ่งก็คือ เดินทางไปให้ครบทุกรัฐของสหรัฐอเมริกา และพบกับชาวท้องถิ่น เขาโพสต์ทางเฟสบุ๊คว่า ตนเคยอาศัยอยู่ในหลายรัฐ แต่ปีนี้ ต้องการไปอีก 30 รัฐเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้
